ฉะเชิงเทรา - หนุ่มเปิดเครื่องเสียงนอนฟังจนหลับในรถ พอตื่นขึ้นมาหลังแบตเตอรี่หมด ระบบนิรภัยที่ทำงานด้วยไฟฟ้าทั้งคันปิดขังอยู่นานนับชั่วโมง ก่อนตั้งสติได้แจ้ง 191 ช่วยเหลือ โชคดีที่ก่อนนอนได้แง้มกระจกประตูด้านข้างไว้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถให้การช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น
วันนี้ (8 ก.ค.) ศูนย์วิทยุ 191 แปดริ้ว ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือว่า ถูกระบบล็อกอัตโนมัติของรถกระบะปิดขังคนขับติดอยู่ภายในรถอยู่นานหลายชั่วโมง เนื่องจากจากเจ้าของรถได้จอดรถเปิดเครื่องเสียงฟัง และนอนหลับพักผ่อน ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารเมืองใหม่พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.พนมสารคาม เข้าทำการตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะนิสสัน นาวารา LE 300 แบบแค็บ ทะเบียน บพ 2486 ปราจีนบุรี จอดอยู่หัวมุมลานจอดรถด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารตลาดเมืองใหม่พนมสารคาม ริมถนน 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ม.4 ต.เมืองเก่า มีนายสาคร กองศักดิ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266 ม.11 ต.บ้านแก้ง อ.เมือง จ.สระแก้ว ติดอยู่ภายในรถของตนเองด้านเบาะที่นั่งคนขับ
โดยนายสาคร ได้พยายามใช้ปลายนิ้วมือสอดออกมาจากช่องกระจกประตูด้านขวามือของที่นั่งคนขับที่เปิดลดกระจกแง้มไว้ต่ำจากขอบยางกระจกประมาณ 5 ซม. ก่อนที่จะยื่นกุญแจรถออกมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการช่วยไขกุญแจด้านนอกประตูให้ ซึ่งทั้งคันมีรูกุญแจไขประตูอยู่เพียงด้านเดียว คือ ด้านฝั่งประตูคนขับ เนื่องจากรถคันดังกล่าวเป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้เป็นระบบล็อกประตูอัตโนมัติด้วยไฟฟ้า พร้อมด้วยระบบปรับเปิดกระจกด้วยระบบไฟฟ้าทั้งคัน ไม่มีกลอนประตู หรือมือหมุนเลื่อนเปิดกระจก ที่จะทำให้คนที่ติดอยู่ภายในสามารถที่จะเปิดรถออกมาได้เลย
นายสาคร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขับคันดังกล่าวเดินทางมาจาก จ.สระแก้ว และได้มาจอดรถเพื่อนอนหลับพักผ่อนยังที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารเมืองใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. เพื่อที่จะรอรับมารดาจากบ้านของพ่อเลี้ยงในเขต อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี กับไปยัง จ.สระแก้ว โดยขณะจอดรถนอนได้ทำการเปิดเครื่องเสียงภายในรถนอนฟังไปด้วย พร้อมกับเปิดแง้มบานกระจกด้านข้างคนขับไว้เล็กน้อย
แต่เมื่อรู้สึกตัวตื่นนอนขึ้นมาในเวลาประมาณ 03.00 น. พบว่า แบตเตอรี่รถยนต์นั้นใกล้จะหมด เพราะพัดลมช่องแอร์ที่ได้ทำการเปิดไว้ด้วยนั้นหมุนเบา จึงได้ทำการปิดเครื่องเสียง และได้พยายามที่จะสตาร์ทรถ แต่รถไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้แล้ว และเมื่อจะออกจากตัวรถก็ยังไม่สามารถออกมาได้ เพราะบานประตูทุกด้านถูกล็อกไปด้วยระบบไฟฟ้าหลังจากแบตเตอรี่หมด
ครั้งแรกก็รู้สึกตกใจ และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร พยายามที่จะหาทางออกมาจากตัวรถให้ได้อยู่นาน และเมื่อตั้งสติได้จึงได้โทรศัพท์ไปยังหมายเลข 191 จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยไขประตูรถให้เมื่อเวลา 06.30 น. ซึ่งถือว่าโชคดีที่ตนได้เปิดแง้มบานกระจกเอาไว้ด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นคงจะร้องขอความช่วยเหลือยากลำบากกว่านี้ และก็ยังไม่รู้ว่าจะยื่นส่งกุญแจให้แก่ผู้ที่มาช่วยเหลือให้ไขกุญแจเปิดประตูรถจากด้านนอกให้ได้อย่างไร
ที่สำคัญขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงเจ้าหน้าที่ก็ยังมองหาตนไม่เห็น จนตนต้องส่งเสียงเรียกร้องผ่านออกมาจากทางช่องกระจกที่แง้มไว้ และยังได้พยายามที่จะยื่นปลายนิ้วมือผ่านออกมาจากทางช่องว่างของกระจก เพื่อกวักมือเรียกเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมองเห็น
นายสาคร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากจะโทษคนที่ออกแบบรถให้เป็นระบบนี้ หรือแบบที่มีระบบนิรภัยที่รู้มากเกินไปก็คงไม่ได้เสียทีเดียว เนื่องจากตนก็ไม่ทราบว่าระบบเดิมทั้งหมดนั้นได้ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบนี้หรือไม่ เพราะตนซื้อรถมือสองมาใช้งาน ซึ่งได้ครอบครองใช้งานมานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยไปดัดแปลงระบบอะไรของตัวรถ ได้แต่เพียงติดตั้งเครื่องเสียงเพิ่มเติมเข้ามาเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทางหน่วยกู้ภัยนำรถยนต์พร้อมสายพ่วงแบตเตอรี่มาทำการพ่วงและสตาร์ทเครื่องยนต์ติดได้แล้ว นายสาคร จึงสามารถเดินทางต่อไปได้