ผบก.จันทบุรี ติดตามเหตุระเบิดตลาดทับช้าง

จันทบุรี - ผบก.ภ.จว.ติดตามความคืบหน้าเหตุระเบิดที่ตลาดทับช้าง พร้อมเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี ก่อนลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุ

จากกรณีเหตุระเบิดที่ตลาดทับช้าง อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บหลายราย

ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ค.) พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เรียกตำรวจชุดคลี่คลายคดีมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี และสาเหตุของการระเบิด มี พ.ต.อ.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสอยดาว พ.ต.อ.มนัส เดิมกะยอม พนักงานสอบสวนหัวหน้างานสืบสวนสถานีตำรวจภูธรสอยดาว และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การต้อนรับ และร่วมประชุม

เบื้องต้น ตำรวจได้ตั้งไว้ 3 ประเด็นหลัก คือ 1.ร้านขายปุ๋ยเคมีภัณฑ์ทางการเกษตรเก็บสารโพแทสเซียมคลอเรต ที่เป็นสารเร่งดอกลำไยไว้ที่โกดังด้านหลังร้านเกิดการระเบิดขึ้น เนื่องจากอากาศร้อน 2.คนงานช่างเชื่อมมีการเชื่อมเหล็กต่อเติมอาคารพาณิชย์หลังใหม่อยู่ด้านข้างตึกอาคารพาณิชย์ 4 คูหา ที่มีการเปิดเป็นร้านปุ๋ยร้านยาเคมีภัณฑ์ ร้านทับช้างอะไหล่ยนต์ และร้านยาง ทำให้สะเก็ดไฟจากการเชื่อมเหล็กถูกแรงลมพัดปลิวเข้าไปในร้านขายปุ๋ยขายยาเคมีภัณฑ์ และทำให้เกิดการระเบิดขึ้น หรือ 3.คนงานที่เสียชีวิตทั้ง 3 คน มีการปรุงอาหารอยู่ด้านหลังครัว ทำให้สารที่เก็บไว้เกิดปะทุจนระเบิดขึ้น

ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นนี้ยังรอผลการสำนวนการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยอีโอดีอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้าน นายประเสริฐ สมศรี อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/39 หมู่ที่ 1 ตำบลทับช้าง อำเภอสอยดาว เจ้าของอาคารพาณิชย์ทั้ง 4 คูหา ได้จ่ายเงินเยียวยาให้แก่แรงงานชาวกัมพูชาที่เสียชีวิต 3 ราย รายละ 1 แสนบาท พร้อมกับได้ส่งศพกลับประเทศเพื่อนำไปดำเนินการทางศาสนาต่อไป ส่วนบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดได้จ่ายค่าเสียหายให้แล้วเช่นกัน ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้งเพื่อไปให้กำลังใจแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ

พล.ต.ต.จรัล กล่าวว่า ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะระเบิดจากสารโพแทสเซียมคลอเรต ซึ่งเป็นสารเร่งดอกลำไยนอกฤดูกาล อย่างไรก็ตาม ต้องรอตรวจสอบยืนยันอีกครั้ง

ทั้งนี้ การกักเก็บสารโพแทสเซียมคอลเรต ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ของฝ่ายทหาร เพราะเป็นสารที่อันตราย อาจจะเกิดปฏิกิริยาระเบิดได้หากไปกระทบต่อสารเคมีชนิดอื่น