xs
xsm
sm
md
lg

น่าทึ่ง! หนุ่ม-สาว ป.ตรี-โทร่วมทัพ “คนกล้าคืนถิ่น” ชี้เงินเดือนเป็นหมื่นหาปัจจัยสี่ให้ชีวิตไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นปลื้ม เห็นผลงานคนรุ่นใหม่จบ ป.ตรี-ป.โทร่วมโครงการ “คนกล้าคืนถิ่น” ของกองทัพบก พบหนุ่มวิศวะ ลาออกจากงานลงทุนปลูกพริกไทย-เกษตรผสมผสานแทน บอกเงินเดือน 2 หมื่นกว่าหาปัจจัยสี่ได้ไม่ครบ ขณะที่สาวบัญชี มน.ลุยปลูกผักบุ้งเวลาว่าง ขณะที่หนุ่ม ป.โท มช.ปลูกมะนาว-สวนผสมจนสำเร็จ

วันนี้ (5 ก.ค.) พล.ต.คู่ชีพ เลิศหงิม รองแม่ทัพภาคที่ 3, พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจงานคนรุ่นใหม่ชาวพิษณุโลกที่เข้าร่วมโครงการ “คนกล้าคืนถิ่น” ของกองทัพบก ซึ่งเปิดรับคนรุ่นใหม่เข้าสู่กระบวนการอบรมให้ความรู้ และนำไปปฏิบัติจริงในพื้นที่ภูมิลำเนาเดิม สามารถประยุกต์แนวคิดคนรุ่นใหม่บวกกับวิถีเกษตรดั้งเดิม ผสมผสายหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจนพึ่งพาตนเองได้

จุดแรก พล.ต.คู่ชีพ พร้อมคณะได้เดินทางไปดูผลงานของ น.ส.พรรษา พรหมมีเนตร อายุ 33 ปี ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็น 1 ใน 11 ชาวพิษณุโลกที่เข้าร่วมโครงการนี้ ณ บ้านเลขที่ 68 ม. 2 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

น.ส.พรรษากล่าวว่า ปกติก็ทำงานที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ต่อมาได้ทราบข้อมูล และสมัครร่วมโครงการคนกล้าคืนถิ่นทางอินเทอร์เน็ตเพราะต้องการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยใช้เวลาหลังเลิกงานดูแลพื้นที่แปลงเกษตรผสมผสานที่ขอแบ่งพื้นที่จำนวน 2 ไร่จากพ่อที่ทำนา 40 ไร่ มาปลูกผักบุ้งส่งขายร้านหมูกระทะ ทดลองปลูกมะนาว ถั่วฝักยาว และข้าวไรซ์เบอร์รี

จากนั้นรองแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะ ได้เดินทางไปดูผลงานของนายธนากร พดคง บ้านเลขที่ 167/1 ม.1 ต.ไผ่ขอดอน อ.เมืองพิษณุโลก อายุ 26 ปี ซึ่งจบปริญญาตรีสาขาวิศวอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จ.ตาก เคยทำงานเป็นวิศวกรบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง เงินเดือน 22,000 บาท ก่อนลาออกมาขุดบ่อล้อมรอบแปลงเกษตรผสมผสาน ทั้งเลี้ยงปลา ทำสวนพริกไทย ชะอม และนาข้าว ในพื้นที่ของพ่อ-แม่ จำนวน 5 ไร่

นายธนากรกล่าวว่า จุดพลิกผันของชีวิตเกิดขึ้นตอนที่เห็นว่าเงินเดือนกว่า 2 หมื่นบาทที่ได้ไม่สามารถหาปัจจัยสี่ได้ครบ ชีวิตอยู่กับงาน มีเวลาพักเพียง 2 วัน จึงตัดสินใจลาออกจากอาชีพวิศวกร สมัครร่วมโครงการของกองทัพบก และกลับมาดูแลพ่อ-แม่ในยามชราด้วย

โดยลงทุนซื้อเสาแท่งปูนมาตั้งติดแสลมในผืนนาที่พ่อแม่ทำอยู่เดิม ทำสวนพริกไทย พร้อมปลูกพืชผสมผสานหลายชนิด ลงทุนก่อสร้างบ้านข้างแปลงนา แต่ ณ วันนี้ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ก็ขอขอบคุณ ผบ.ม.พัน.9 และ ผบ.พล.ร.4 ที่เดินทางมารับทราบปัญหาและกำลังติดต่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขยายเขตมาลงที่บ้าน

จากนั้นคณะของรองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางต่อไปดูผลงานของนายนิพล สุเยาว์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301 ม.8 ต.บึงกอก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งจบปริญญาตรีสาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ปริญญาโทสาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบันประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำเกษตรผสมผสาน ปลูกมะนาววงบ่อ ผักสวนครัว เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงกบ เลี้ยงหมู ทำโรงสีข้าวจำหน่ายข้าวหอมมะลิ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในผู้กล้าคืนถิ่นที่ปลูกมะนาววงบ่อจนสำเร็จ

พล.ต.คู่ชีพกล่าวว่า ยินดีที่พบเห็นผู้กล้าที่มีความรู้ และหลักวิชาการ แล้วนำมาใช้-พัฒนาภูมิลำเนาเดิม ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามโครงการต้นกล้าคืนถิ่นของกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 จะออกติดตามผลการปฏิบัติการของคนกล้าคืนถิ่น หากมีปัญหาติดขัดใดๆ ก็จะเข้าช่วยเหลือต่อไป ซึ่งในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 มีผู้ร่วมโครงการ 190 คน แบ่งเป็นคนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 89 ราย และเหนือตอนล่าง 101 ราย เฉพาะพิษณุโลกมี 11 ราย





กำลังโหลดความคิดเห็น