ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินสรุปผลการตรวจสอบทรัพย์สินหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่มูลค่ามหาศาล เผยมีบัญชีเงินฝากธนาคาร 12 บัญชี รวมกว่า 130 ล้านบาท ขณะทรัพย์สินมีค่าของวัดโดยเฉพาะวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ประเมินค่าไม่ได้กว่า 40 รายการ และทรัพย์สินส่วนตัวหลวงพ่อคูณอีก 43 รายการ ส่งมอบ “พระนุช” รักษาการเจ้าอาวาสใหม่ ดูแลบริหารจัดการต่อ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ และวัดบ้านไร่ ที่แต่งตั้งโดยพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา โดยมีพระราชสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน และคณะกรรมการ 31 คน ทั้งฝ่ายบรรพชิตและฝ่ายคฤหัสถ์ เดินทางมาเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งครั้งนี้ พระภาวนาประชานาถ (นุช รัตนวิชโย) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ในฐานะรองประธานกรรมการฯ ได้มาเข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมมีประชาชนชาว อ.ด่านขุนทดเข้ามาร่วมสังเกตการณ์จำนวนหนึ่ง
สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นการสรุปผลการตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดในวัดบ้านไร่ทั้งที่เป็นของวัดบ้านไร่ และพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ซึ่งอดีตคณะกรรมการวัดบ้านไร่ได้ร่วมกันสำรวจตรวจนับและส่งรายงานให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ ชุดใหญ่ร่วมกันพิจารณาในวันนี้
ในที่ประชุมได้มีการรายงานรายละเอียดการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) และวัดบ้านไร่ทั้งหมด แบ่งเป็น 6 หมวด รวมจำนวน 12 หน้า ประกอบด้วย หมวดที่ 1 หมวดอาคารมีทั้งหมด 25 รายการ รวม 33 หลัง เช่น พระอุโบสถ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ หอฉัน อาคารอ่างน้ำมนต์ หอผลิตน้ำประปา กุฏิสงฆ์ทรงไทย และวิหารเทพวิทยาคม เป็นต้น
หมวดที่ 2 หมวดที่ดิน มีจำนวน 7 แปลง รวม 134 ไร่ 10 งาน 76 ตารางวา แยกเป็นโฉนดที่ดิน จำนวน 6 แปลง และหนังสือสำคัญที่หลวง 1 แปลง จำนวน 95 ไร่ 3. หมวดยานพาหนะ จำนวน 5 คัน เช่น รถตู้ รถเก็บขยะ รถบรรทุกน้ำ รถบรรทุกสิ่งปฏิกูล เป็นต้น
4. หมวดทรัพย์สินมีค่า แบ่งเป็นทรัพย์สินของวัด จำนวน 41 รายการ เช่น วัตถุมงคลรุ่น 90 รุ่นสร้างบ้านให้พ่อ รุ่นรวย รวย รวย รุ่นของขวัญ (สุคโต) เป็นต้น ทรัพย์สินส่วนตัวหลวงพ่อคูณ จำนวน 43 รายการ เช่น ไม้เคาะหัว อัฐบริขาร ดอกตะกรุดทองคำ พระยอดธง เหรียญหลวงพ่อคูณ เกศ บรรจุในผอบ น้ำสรงพระราชทาน ปะคำงาช้าง หนังสือสุทธิ จีวร ประคดเอว สีผึ้ง ชุดปลัดขิก ผ้ายันต์ ผ้าสังฆาฏิ ผ้ารัดเอว เป็นต้น และทรัพย์สินอื่นๆ จำนวน 69 รายการ เช่น เตียงนอนไฟฟ้าสำหรับผู้ป่วย เครื่องปั่นจักรยานไฟฟ้า รถเข็น ตู้เย็น พระประธาน รูปปั้นฤาษี เก้าอี้หลุยส์ เก้าอี้ไม้มะค่า เป็นต้น
5. หมวดการเงิน-บัญชี แบ่งเป็นบัญชีเงินฝากธนาคารวัดบ้านไร่ จำนวน 8 บัญชี บัญชีมูลนิธิในนามวัดบ้านไร่ จำนวน 1 บัญชี คือ มูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ยอดเงินกว่า 43.4 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกองทุนกว่า 41.6 ล้านบาท ดอกเบี้ยอีกกว่า 1.7 ล้านบาท รวม 9 บัญชี มีเงินฝากทั้งสิ้น 87,716,300.85 บาท
นอกจากนี้ยังมีรายการที่จะนำไปเก็บรักษาอีก 3 รายการ คือ พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “สุขกันเถอะเรา” ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 40 ล้านบาท 2. ชื่อบัญชี มูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ธนาคารทหารไทย เงินฝากประจำกว่า 1.9 ล้านบาท และ 3. บัญชีมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ธนาคารทหารไทย ประเภทออมทรัพย์ เงินจำนวนกว่า 1.5 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 43,473,167.73 บาท และ 6. หมวดอื่นๆ ไม่มี
พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมได้มีการบันทึกข้อเสนอของอดีตคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ในเรื่องการสืบสานเจตนารมณ์ของพระเทพวิทยาคมกรณีโครงการถวายเงิน 100 ล้านบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกรณีทรัพย์สิน-หนี้สิน ในโครงการก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคมหรือวิหารกลางน้ำ เพื่อให้เจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่ดำเนินการต่อไป
จากนั้นพระราชสีมาภรณ์ ประธานที่ประชุม ได้มอบรายการทรัพย์สินพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่ทั้งหมดให้แก่ พระภาวนาประชานาถ (นุช รัตนวิชโย) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เพื่อดูแลรักษาบริหารจัดการต่อไป และคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ จะได้สรุปรายงานผลการตรวจสอบทรัพย์สินพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่เสนอต่อพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาต่อไป