ประจวบคีรีขันธ์ - กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจปราณบุรี เข้ารื้อถอนร้านค้าชายหาดปากน้ำปราณ 21 ร้าน หลังยืดเยื้อมานานกว่า 6 เดือน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) คณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้จัดระเบียบชายหาดสาธารณะทั่วประเทศให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นสถานที่ให้ประโยชน์สำหรับประชาชนส่วนรวม ซึ่งในส่วนของชายหาดปากน้ำปราณนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการจัดระเบียบชายหาดได้ เนื่องจากผู้ประกอบการร้านค้าชายหาด จำนวน 21 ร้าน ได้ยื่นคำร้องขอผ่อนผัน และได้มีการประชุมหารือร่วมกันมาเป็นระยะเวลานานกว่า 6 เดือน ซึ่งทางคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดปากน้ำปราณ ได้ให้เวลาในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ
โดยมีกำหนดเวลาในการเข้าดำเนินการจัดระเบียบชายหาดในวันนี้ ผลปรากฏว่า ร้านค้าชายหาดทั้ง 21 ร้านค้า ประกอบไปด้วย ร้านอาหารทะเลขนาดใหญ่ จำนวน 4 ร้าน ส่วนที่เหลือได้แก่โรงอบหมึก ลานตากหมึก และร้านขายของฝากอีก จำนวน 16 ร้าน และอีก 1 แห่ง เป็นสถานปฏิบัติธรรม ซึ่งทั้งหมดยังไม่มีการรื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายสิ่งของใดๆ ออกจากชายหาด ซึ่งร้านค้าเหล่านี้สร้างบนชายหาดรุกล้ำพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่ควรได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
โดยวันนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ นำโดย นายสุทธิพร ณ นคร ปลัดอาวุโสอำเภอปราณบุรี พ.ท.ชนรรค์ บุญนำ ผบ.กองพันทหารราบที่ 2 ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ พ.ต.อ.นิรันดร์ ศิริสังข์ไชย ผกก.สภ.ปากน้ำปราณ ร.ต.อ.สมศักดิ์ ทวิสังข์ รองผู้บังคับการกองร้อย ตชด.145 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หลายร้อยนาย และอุปกรณ์ทั้งรถแบ็กโฮ รถบรรทุก และเครื่องมือในการช่วยทำการรื้อถอน ได้ลงพื้นที่เพื่อดำเนินการจัดระเบียบชายหาด
ทั้งนี้ พบว่า ร้านค้าทั้งหมดได้ปิดให้บริการในวันนี้ มีการนำสแลน หรือผ้าพสาสติกมาปิดบังร้านค้าไว้ แต่พบว่าเจ้าของร้านพร้อมด้วยชาวบ้านมามุงดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสถานการณ์โดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายสุทธิพร ณ นคร ปลัดอาวุโสอำเภอปราณบุรี กล่าวว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่จะลงมือช่วยผู้ประกอบการในการรื้อถอน และจัดระเบียบ ในส่วนของร้านค้าที่ยินดีให้ดำเนินการก่อนเป็นลำดับแรก ส่วนร้านค้าใดที่ยังมีปัญหาไม่ยินยอมให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนหรือจัดระเบียบ จะได้ดำเนินการเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากน้ำปราณ ในข้อหาบุกรุกที่หลวง เพื่อดำเนินคดีในทางกฎหมายต่อไป
“ต้องยอมรับว่าการเข้าดำเนินการจัดระเบียบของทางราชการนี้ได้ประชุมชี้แจง และแจ้งข้อมูลให้ทราบมานานกว่า 6 เดือนแล้ว ทุกคนทราบว่าเป็นที่สาธารณะแต่ยังไม่ยอมรื้อถอนร้านค้า และสิ่งปลูกสร้างออกไป เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องเข้าดำเนินการให้ ซึ่งทั้ง 21 ร้านค้านี้จะครอบคลุมแนวชายหาดปากน้ำปราณ ประมาณ 3-4 กิโลเมตร ซึ่งหากเจ้าหน้าที่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเสร็จเรียบร้อย จะเข้าดำเนินการในการจัดระเบียบ และปรับปรุงภูมิทัศน์ตลอดแนวชายหาดปากน้ำปราณทันที ซึ่งทุกคนจะได้ที่สาธารณะกลับคืนมา เป็นแนวชายหาดที่สวยงาม และสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง”