xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านพัทลุงมึน อยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยกว่า70 ปี เจอนายทุนอ้างสิทธิ น.ส.3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พัทลุง - ชาวบ้านป่าหัวเขียวเขียว ม.7 ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน มืนงง อาศัยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยมาหลายชั่วอายุคนกว่า 70 ปี จู่ๆ นายทุนถือ น.ส.3 เข้าอ้างสิทธิที่ดิน พร้อมนำรถแบ็กโฮขุดเพื่อกันแนวเขตทับบ้านเรือนชาวบ้าน ร้องศูนย์ดำรงธรรมเข้าช่วยเหลือ เบื้องต้น ตรวจสอบยังไม่พบต้นขั้ว น.ส.3

วันนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า ชาวบ้านหัวป่าเขียว ม.7 ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง หลายครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากที่ดินทำกินที่ได้รับการสืบทอดมาจากพ่อแม่ ปู่ย่า จู่ๆ ก็มีหลักฐานที่เป็น น.ส.3 จากกลุ่มนายทุนมาแสดงความเป็นเจ้าของ และเรียกร้องให้ออกจากพื้นที่ บางรายต้องจำใจชื้อที่ดินของตัวเองคืนเพราะไม่มีที่จะไปที่อื่นในราคาที่สูงกว่าปกติ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า บ้านหัวป่าเขียว เป็นพื้นที่ทุรกันดารสุดของจังหวัดพัทลุง โดยบ้านเรือนประชาชนตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย มานานกว่า 70 ปี จึงไม่สามารถทำการเกษตร หรือปรับที่ดิน หรือออกโฉนดที่ดินเป็นของตัวเองได้ เพียงแค่ประกอบอาชีพเลี้ยงควายปล่อยทุ่งตามป่าพรุ และออกหางานรับจ้างจากหมู่บ้านรอบนอก แต่จู่ๆ ได้มีนายทุนได้ออก น.ส.3 มาทับที่ทำกินชาวบ้านประมาณ 44 ไร่ แล้วนำรถแบ็กโฮขุดเพื่อกันแนวเขตทับบ้านเรือนชาวบ้าน 6 หลัง แต่เจ้าของบ้านทั้ง 6 หลัง ก็พยายามขอชื้อที่ดินคืนเพื่ออย่าให้รื้อถอนบ้านออกจากที่อยู่เดิม ในไร่ละ 1 แสนบาท เพื่อตัดปัญหา

แต่เจ้าของที่ดิน น.ส.3 ก็ยังไม่ยอมโอนให้ แล้วนำรถมาขุดคันโดยรอบ ทางชาวบ้านจึงได้ร้องศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้การช่วยเหลือ พร้อมประสานหน่วยทหารใกล้เคียงเข้าตรวจสอบ เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้สั่งการให้ทางเจ้าของยุติการขุด พร้อมนำรถแบ็กโฮออกไป เพื่อขอพิสูฐน์หลักฐาน และเอกสาร แต่เบื้องต้น ยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากหลักฐาน น.ส.3 นั้น ยังไม่พบต้นขั้วว่าออกโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ และต้องรอหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบสร้างความแน่ชัดอีกครั้ง

โดย นายพัน มีศรี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า เดิมทีที่ดินตรงนี้มีอยู่ 400 กว่าไร่ และชาวบ้านทำมาหากินมานานหลายอายุคน แล้วจู่ๆ มีนายทุนเอา น.ส.3 มาบอกว่าเป็นที่ของเขา ทำให้พวกตนได้รับความเดือดร้อน เพราะที่ที่พวกตนอยู่ไม่มีเอกสารไดๆ เนื่องจากอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จึงได้แค่อยู่อาศัย และทำมาหากินตามประสา แต่เมื่อนายทุนมีหลักฐานการครอบครองที่ดินเข้ามาระบุว่า ให้พวกตนออกจากพื้นที่ก็ได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวปู่ย่า พ่อแม่เป็นผู้บุกเบิกมากับมือ และตัวเองได้รับมรดกที่ดินนั้นมา ซึ่งตนเองยังสงสัยว่า ทำไมพื้นที่กว่า 400 ไร่ กลุ่มนายทุนสามารถออก น.ส.3ได้ แต่ชาวบ้าน จำนวน 147 ครอบครัวที่อาศัยมานมนานไม่สามารถออก น.ส.3ได้ จึงอยากวอนให้รัฐบาล รวมถึงนายกรัฐมนตรีผ่านทางผู้สื่อข่าวส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโดยด่วนว่า น.ส.3 ฉบับดังกล่าวออกโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากพวกตนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น