กาญจนบุรี - เจ้าของไรยูคาลิปตัส และชาวบ้านในพื้นที่อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี โวยโดนมือดีเข้าลักตัดต้นยูคาลิปตัสที่ปลูกไว้กว่า 200 ไร่จนเหี้ยน เสียหายร่วม 6 ล้านบาท แจ้งตำรวจ สภ.บ่อพลอย จับดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ชาวบ้านเผยก่อนหน้านี้คนกลุ่มเดียวกันเข้าไปตัดไม้ในป่าชุมชนอายุร่วม 200 ปี อ้างหน่วยงานรัฐยึดพื้นที่คืนสร้างโรงไฟฟ้า แต่โชคดีทหาร คสช.สั่งระงับทัน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้งจาก นายเกรียงชัย แซ่ลี้ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/11 หมู่ 4 ต.หนองปลาไหล อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี เจ้าของไร่ยูคาลิปตัสว่า ยูคาลิปตัสที่ตนปลูกไว้นานกว่า 10 ปี บนเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ที่หมู่ 2 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ได้ถูกขโมยลักลอบเข้าตัดจนได้รับความเสียหายทั้งหมด ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบชาวบ้านประมาณ 10 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนในลักษณะเดียวกันรออยู่ โดยนายเกรียงชัย แซ่ลี้ เจ้าของไร่ยูคาลิปตัส เปิดเผยว่า เดิมที่ดินจำนวน 200 ไร่ แปลงดังกล่าวเป็นของญาติที่ครอบครองมานานกว่า 20 ปี โดยมีเอกสารเป็นใบ ภบ.ท.5 ที่ผ่านมาได้ปลูกพืชทางการเกษตรประเภทมันสำปะหลังมาโดยตลอด แต่มาภายหลังญาติเลิกทำเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง ตนจึงซื้อสิทธิมา และเปลี่ยนมาปลูกต้นยูคาลิปตัสแทน จนกระทั้งโต และตัดไปขายแล้ว จำนวน 1 ชุด ผ่านมาประมาณ 5-6 ปี ต้นยูคาลิปตัสได้เจริญเติบโตขึ้นมาใหม่ซึ่งตนก็ไม่ได้เข้ามาดูแล
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนขับรถผ่านมาสังเกตเห็นไร่ยูคาที่ตนปลูกเอาไว้ถูกตัดจนเตียน ด้วยความตกใจตนจึงรีบขับรถเข้ามาดู พบมีคนงานของลานไม้แห่งหนึ่งกำลังตัดไม้ที่เหลืออยู่ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อพลอย มาตรวจสอบ และได้จับกุมกลุ่มคนงานไปจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งยึดรถบรรทุกไม้ไว้ได้ ซึ่งในวันที่ 18 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ พนักงานสอบสวน สภ.บ่อพลอย ได้ให้ตนไปพบเพื่อให้การอีกครั้งหนึ่ง ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการสอบถามไปยังเจ้าของลานไม้ชื่อ “เจ๊นก” ก็ได้รับคำตอบว่า ซื้อไม้ทั้งหมดมาจากทหาร และบอกแก่ตนว่า จะให้นายทหารยศ “พันเอก” มาเคลียร์กับตน ซึ่งก็ยังไม่ครบกำหนดเวลา และหากทหารจะยึดพื้นที่คืนก็ควรจะแจ้งให้ตนทราบ รวมทั้งการตัดต้นไม้ก็ควรจะบอกให้ตนทราบด้วยเช่นกัน
น.ส.นฤมล สิทธิสร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 หมู่ 1 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ตนและครอบครัวดูแลผืนป่าประมาณ 1,000 ไร่ ผืนป่าดังกล่าวมีต้นไม้ชนิดต่างๆ มากกว่า 100 ปี ก่อนที่คนงานของลานไม้จะมาตัดต้นยูคาลิปตัสบริเวณนี้คนงานได้เข้าไปตัดไม้ในพื้นที่ป่าชุมชนมาก่อน พวกตนจึงรีบแจ้งไปยังนายทหาร คสช.ที่ดูแลความสงบในพื้นที่ให้มาตรวจสอบ และได้มีการสั่งยับยั้งว่าห้ามตัดไม้
เมื่อตัดไม่ได้คนงานของลานไม้จึงมาตัดไม้ยูคาลิปตัสในภายหลัง ขณะตัดพวกตนเข้าใจว่าเจ้าของให้คนงานมาตัดเองเนื่องจากมีการตั้งแคมป์พักคนงานเอาไว้โดยรอบ ทุกคนจึงไม่เอะใจ จนกระทั่งมาทราบเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้น พวกตนได้สอบถามคนงานที่เข้ามาตัดไม้ในป่าชุมชนก็ทราบว่า จะมีหน่วยงานของรัฐมายึดพื้นที่คืนเพื่อใช้พื้นที่สำหรับก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้า โดยหากเจ้าหน้าที่ต้องการที่คืนก็ต้องมาแจ้งให้พวกเราชาวบ้านที่ทำมาหากินในพื้นที่มาหลายชั่วอายุคนทราบก่อน
สำหรับป่าชุมชนเหลือเพียงแห่งเดียวเท่านั้นในละแวกนี้ พวกตนจึงต้องการที่จะอนุรักษ์เอาไว้เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้เข้าไปเก็บของป่าเพื่อนำมาขายหารายได้เสริม และลูกหลานจะได้ใช้เป็นแหล่งหาอาหารได้ในอนาคต
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากทราบข้อมูลรายละเอียดจากกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ลานไม้แห่งหนึ่งตามที่ชาวบ้านกล่าวอ้างว่าเป็นผู้นำคนงานไปตัดต้นยูคาลิปตัส และต้นไม้ในป่าชุมชน และจากการสอบถามก็ได้รับคำตอบสั้นๆ ว่า เป็นเพียงผู้รับจ้างเท่านั้น หากผู้สื่อข่าวต้องการความจริงก็ขอให้ไปตรวจสอบเอาเอง จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.บ่อพลอย เพื่อขอข้อมูลจากพนักงานสอบสวน ร้อยเวรเจ้าของคดี ซึ่งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า พนักงานสอบสวนเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี จึงเดินทางกลับ