เพชรบุรี - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานถนนเข้านา 2 พี่น้องชาวเวียงคอย เมืองเพชรบุรี ต่างปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณ เผย 22 พ.ค.นี้ จะจัดงานเปิดถนนพระราชทาน และทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทางเดินลงสู่นาข้าวกลางทุ่งนาหมู่ 1 บ้านวังตะโก ต.วังตะโก อ.เมือง จ.เพชรบุรี ที่มีการถมเป็นเส้นทางยาวประมาณ 150 เมตร สร้างความปลื้มปีติให้แก่ น.ส.บรรจง กองเมือง อายุ 58 ปี และ น.ส.บุญเรือน เกิดทรัพย์ อายุ 53 ปี 2 พี่น้อง ต.เวียงคอย อ.เมือง จ.เพชรบุรี เป็นอย่างมาก เพราะทางดังกล่าวได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ 2 พี่น้องได้เขียนจดหมายกราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือ ขอให้มีทางเข้า-ออกนาข้าวที่ใช้ทำกินมานานหลายสิบปี แต่มีความยากลำบากมาก โดยเส้นทางดังกล่าวหากต้องการผ่านจะมีผู้เรียกเก็บเงินค่าผ่านทางครั้งละ 300-500 บาท
น.ส.บรรจง กองเมือง เปิดเผยว่า ตนกับ น.ส.บุญเรือน น้องสาว มีอาชีพทำนา โดยมีนาข้าวอยู่กลางทุ่ง อีกทั้งช่วงทำนาแต่ละครั้งนั้นลำบากมากเพราะไม่มีทางเดินโดยตนต้องซื้อไม้ยูคาลิปตัสมาวางเป็นลูกระนาดทำทางเดินในการทำนา และขนข้าวโดยไม้ทุกท่อนต้องช่วยกันแบกเองถึง 20 วันจนบ่าแตก เพราะไม่มีคนช่วย และหมดเงินไปนับแสนบาทจนกระทั่งมีทางเดินแต่ก็ถูกคนกลั่นแกล้งมาแก้ลูกระนาดออก และจุดไฟเผาไม้จนเสียหายไปครึ่งทาง เพราะไม่ต้องการให้ใช้เส้นทางดังกล่าวในการทำกิน
อีกทั้งหากต้องการผ่านเส้นทางก็มีการเก็บค่าผ่านทางครั้งละ 300-500 บาท จึงทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางการเดิน แต่ก็มีระยะทางไกลกว่า 1.5 กิโลเมตร ซึ่งลำบากมาก ตนจึงชวนน้องสาวขึ้นรถโดยสารประจำทางไปที่วังไกลกังวล หัวหิน พร้อมกับเขียนจดหมายไปขอพระราชทานทาง โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักราชเลขาธิการพระบรมมหาราชวัง รับหนังสือไว้ และบอกว่าหากป้าบุญมีวาสนา ป้าคงได้รับความช่วยเหลือ
หลังจากนั้นไม่นาน ได้มีจดหมายจากสำนักราชเลขาธิการพระบรมมหาราชวัง มาถึงตน โดยครั้งแรกที่ได้รับจดหมายรู้สึกดีใจมากที่สุดในชีวิตที่พระองค์ท่านพระราชทานความช่วยเหลือมาถึงตนและครอบครัว ถึง 2 เรื่อง เป็นเรื่องของถนน และเรื่องร้องครอบครองปรปักษ์
ต่อมา ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี ลงมาให้ความช่วยเหลือ หลังจากทางสำนักราชเลขาธิการมีหนังสือไปยังอธิบดีอัยการ สำนักคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือกฎหมายแก่ประชาชนให้ดำเนินการ โดยมีเทศบาลตำบลหัวสะพาน ดำเนินการนำหินมาถมทำเป็นทางให้จนกลายเป็นถนนพระราชทานในที่สุด
ทั้งนี้ ตนและครอบครัวต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงพระราชทานความช่วยเหลือมาในครั้งนี้ และในวันที่ 22 พ.ค.58 จะจัดงานเปิดถนนพระราชทาน และทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกด้วย
ทางเดินลงสู่นาข้าวกลางทุ่งนาหมู่ 1 บ้านวังตะโก ต.วังตะโก อ.เมือง จ.เพชรบุรี ที่มีการถมเป็นเส้นทางยาวประมาณ 150 เมตร สร้างความปลื้มปีติให้แก่ น.ส.บรรจง กองเมือง อายุ 58 ปี และ น.ส.บุญเรือน เกิดทรัพย์ อายุ 53 ปี 2 พี่น้อง ต.เวียงคอย อ.เมือง จ.เพชรบุรี เป็นอย่างมาก เพราะทางดังกล่าวได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ 2 พี่น้องได้เขียนจดหมายกราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือ ขอให้มีทางเข้า-ออกนาข้าวที่ใช้ทำกินมานานหลายสิบปี แต่มีความยากลำบากมาก โดยเส้นทางดังกล่าวหากต้องการผ่านจะมีผู้เรียกเก็บเงินค่าผ่านทางครั้งละ 300-500 บาท
น.ส.บรรจง กองเมือง เปิดเผยว่า ตนกับ น.ส.บุญเรือน น้องสาว มีอาชีพทำนา โดยมีนาข้าวอยู่กลางทุ่ง อีกทั้งช่วงทำนาแต่ละครั้งนั้นลำบากมากเพราะไม่มีทางเดินโดยตนต้องซื้อไม้ยูคาลิปตัสมาวางเป็นลูกระนาดทำทางเดินในการทำนา และขนข้าวโดยไม้ทุกท่อนต้องช่วยกันแบกเองถึง 20 วันจนบ่าแตก เพราะไม่มีคนช่วย และหมดเงินไปนับแสนบาทจนกระทั่งมีทางเดินแต่ก็ถูกคนกลั่นแกล้งมาแก้ลูกระนาดออก และจุดไฟเผาไม้จนเสียหายไปครึ่งทาง เพราะไม่ต้องการให้ใช้เส้นทางดังกล่าวในการทำกิน
อีกทั้งหากต้องการผ่านเส้นทางก็มีการเก็บค่าผ่านทางครั้งละ 300-500 บาท จึงทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางการเดิน แต่ก็มีระยะทางไกลกว่า 1.5 กิโลเมตร ซึ่งลำบากมาก ตนจึงชวนน้องสาวขึ้นรถโดยสารประจำทางไปที่วังไกลกังวล หัวหิน พร้อมกับเขียนจดหมายไปขอพระราชทานทาง โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักราชเลขาธิการพระบรมมหาราชวัง รับหนังสือไว้ และบอกว่าหากป้าบุญมีวาสนา ป้าคงได้รับความช่วยเหลือ
หลังจากนั้นไม่นาน ได้มีจดหมายจากสำนักราชเลขาธิการพระบรมมหาราชวัง มาถึงตน โดยครั้งแรกที่ได้รับจดหมายรู้สึกดีใจมากที่สุดในชีวิตที่พระองค์ท่านพระราชทานความช่วยเหลือมาถึงตนและครอบครัว ถึง 2 เรื่อง เป็นเรื่องของถนน และเรื่องร้องครอบครองปรปักษ์
ต่อมา ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี ลงมาให้ความช่วยเหลือ หลังจากทางสำนักราชเลขาธิการมีหนังสือไปยังอธิบดีอัยการ สำนักคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือกฎหมายแก่ประชาชนให้ดำเนินการ โดยมีเทศบาลตำบลหัวสะพาน ดำเนินการนำหินมาถมทำเป็นทางให้จนกลายเป็นถนนพระราชทานในที่สุด
ทั้งนี้ ตนและครอบครัวต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงพระราชทานความช่วยเหลือมาในครั้งนี้ และในวันที่ 22 พ.ค.58 จะจัดงานเปิดถนนพระราชทาน และทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกด้วย