ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.โคราช เรียกผู้ต้องสงสัย 4 คน ฉกปืน M 16 อส.โคราชหายอื้อ มารับทราบข้อกล่าวหา 22 มิ.ย.นี้ พร้อมส่งพนักงานสอบสวนลงตรวจรถยานพาหนะขนปืน ด้าน ทภ.2 ออกคำสั่งห้ามทุกหน่วยงานเคลื่อนย้ายปืน และอาวุธอื่นๆ ออกนอกพื้นที่ เพื่อให้ชุดสืบสวนตามปืนกลับมาให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีอาวุธปืนเอ็ม 16 ของกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครราชสีมาที่ 1 (ร้อย อส.นม.1) ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา หายไปอย่างไร้ร่องรอยในช่วงประมาณปี 2556-2557 จำนวนกว่า 74 กระบอก ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด วันนี้ (16 มิ.ย.) พ.ต.อ.สมศักดิ์ ฤกษพุฒิ ผู้กับการ (ผกก.) สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ท้องที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า ได้ประสานผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ราย ในคดีปืนหายดังกล่าว เพื่อให้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย.นี้ ซึ่งคงต้องสอบปากคำทั้ง 4 รายนี้ก่อนว่าจะมีการซัดทอดถึงใครอีกหรือไม่ ในการนำปืนของ อส.นม.1 ออกไป ซึ่งคาดว่าทั้ง 4 รายนั้นจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวตามกำหนดที่ให้ไป ซึ่งเบื้องต้น พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาลักทรัพย์ของทางราชการ โทษจำคุก 5 ปี และโทษปรับ
สำหรับการติดตามอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่หายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวนของ สภ.จอหอ ได้กระจายกำลังลงพื้นที่เพื่อเร่งควานหาปืนที่หายไป ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายปกครองโดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ให้นายอำเภอที่ดูแล อส. ได้ตรวจเช็กอาวุธปืน และช่วยติดตามปืนอีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้นำกลับมาได้หลายกระบอกแล้ว คาดว่าน่าจะประมาณ 5 กระบอก
ทั้งนี้ ต้องย้ำว่าอาวุธปืนของกองร้อย อส.นม.1 ที่หายไปครั้งนี้ไม่ได้มีการโจรกรรม หรืองัดแงะออกไป แต่เป็นการเบิกนำออกไปเพียงแต่ไม่นำกลับคืนมา ที่สำคัญคือ ระบบการควบคุมปืนหละหลวมจึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
พ.ต.อ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางฝ่ายทหารกองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาช่วยในการตรวจนับอาวุธปืน และมาดูแลความเรียบร้อย ล่าสุด ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 (กอ.รมน.ภาค2) กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกคำสั่งให้ทุกหน่วยงานห้ามเคลื่อนย้ายอาวุธปืน และอาวุธอื่นๆ ออกนอกพื้นที่ หากมีความจำเป็นต้องใช้ให้มีการแจ้งเหตุผลที่ชัดเจน
สำหรับรถยนต์ที่มีพยานระบุว่า ใช้เป็นยานพาหนะในการขนย้ายอาวุธปืน M 16 ออกไปจากองร้อย อส.นม.1 นั้นจะให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปตรวจสอบรถยนต์ดังกล่าวเอง โดยไม่รอให้ทางจังหวัดนครราชสีมา ส่งมาให้ตรวจสอบ ทั้งนี้ ได้เรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาชี้รถยนต์คันดังกล่าว คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะเข้าตรวจสอบรถยนต์เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน