ครูบำนาญพึ่งสภาทนายช่วย ถูกอดีต ผวจ.กาญจน์ฟ้องหมิ่น จี้เร่งตรวจสอบกรณีซ่อมสะพานมอญ

กาญจนบุรี - ข้าราชการบำนาญครูกาญจนบุรี เข้าพบประธานสภาทนายความจังหวัดกาญจนบุรี ช่วยคดีหลังถูกอดีต ผวจ.กาญจนบุรีปัจจุบันตำแหน่ง สปช.ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา กรณี “ซ่อมสะพานมอญ” วอน สปช.ตรวจสอบ หวั่นใช้อำนาจกลั่นแกล้ง พร้อมชี้จนถึงขณะนี้กรณีสะพานมอญยังไม่มีความคืบหน้า เรียกร้องหน่วยงาน และองค์กรที่ได้รับเรื่องร้องเรียนรีบดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจังเสียที

เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (10 มิ.ย.) นายประพฤติ มลิผล ข้าราชการบำนาญครู อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/1 ถนนไชยชุมพล ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้เข้าพบ นายวรรษภณ แสงเป่า ประธานสภาทนายความจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย หลังจากที่ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี คดีระหว่าง นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดย นายคงเดช จำปามูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจเป็นผู้กล่าวหา ในข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา

นายประพฤติ เปิดเผยภายหลังว่า ตนได้ติดตามกรณีที่จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการบูรณะซ่อมแซมสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่อไปในทางทุจริตคอร์รัปชันในทุกขั้นตอนของการดำเนินการ รวมทั้งการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามสเปก และไม่เสร็จตามกำหนดระยะเวลาในสัญญาว่าจ้าง ด้วยวงเงินงบประมาณในการบูรณะซ่อมแซมกว่า 16 ล้านบาท ภายหลังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย รวมทั้งสังคมโลกออนไลน์ก็ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการดำเนินงานของจังหวัดอย่างหนัก

ในฐานะที่ตนเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากเกษียณก็ทำงานเป็นจิตอาสาเพื่อประโยชน์ต่อสังคมมาโดยตลอด จึงได้นำข้อมูลต่างๆ ของการดำเนินการบูรณะซ่อมแซมสะพานมอญ ที่ปรากฏอยู่ในโลกออนไลน์มาแชร์ต่อๆ กันไป เพียงต้องการให้สังคมได้รับรู้ข้อมูล โดยไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวโจมตีผู้หนึ่งผู้ใด แต่มีเจตนาที่จะเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อออกมาต่อสู้ปกป้องและรักษาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคนเมืองกาญจน์ และสาธารณชนเท่านั้น

เนื่องจากปัจจุบัน ผู้กล่าวหาได้ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จึงดูเหมือนว่า การกระทำดังกล่าวของผู้กล่าวหาเป็นการใช้อำนาจที่มีอยู่กลั่นแกล้งรังแกประชาชนคนธรรมดา ที่ไม่มีอำนาจใดๆ มาต่อสู้ทั้งๆ ที่ตนกับผู้กล่าวหาไม่มีเรื่องบาดหมางกันเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด จึงมองว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม และอยากฝากไปถึง สปช. ให้ช่วยตรวจสอบว่าบุคคลดังกล่าวใช้อำนาจไปในทางที่ถูกต้องหรือไม่

ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาชาวจังหวัดกาญจนบุรีได้รวมตัวกันทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ เช่น ร้องเรียนไปถึงนายกรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นต้น ซึ่งตนก็เป็น 1 ในพยานที่เข้าไปให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อ ป.ป.ช.ด้วย แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้แต่อย่างใด จึงอยากให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนในเรื่องดังกล่าวได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจังเสียที

ด้าน นายวรรษภณ เปิดเผยว่า นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ได้ประสานมาที่ตนว่า ขอให้ตนให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมาย รวมทั้งขอให้ตนช่วยเหลือเกี่ยวกับคดีความของนายประพฤติ ที่ถูกพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ส่งหมายเรียกในข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา

จากการรับฟังข้อมูลจากนายประพฤติ เบื้องต้นทราบว่า เป็นการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ต่อๆ กันมา อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีที่ผู้ต้องหาทำเพื่อประโยชน์ของสังคม ดังนั้น สภาทยานความจะรับเรื่องไว้เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป