ASTV ผู้จัดการออนไลน์ -ธนาคารกรุงไทยยืนยันสาขาปฏิบัติตามขั้นตอนในการเบิกจ่ายเงินตามเช็คสั่งจ่ายของลูกค้าสาขาพิจิตร เผยธนาคารยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ และพร้อมรับผิดชอบตามกระบวนการยุติธรรม
จากที่ลูกค้าธนาคารกรุงไทย สาขาพิจิตร รายนายพิศ วิริยะอารีธรรม ได้ร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีเช็คสั่งจ่ายไม่สามารถเบิกเงินได้เนื่องจากเงินในบัญชีไม่เพียงพอ ทั้งที่มีเงินฝากอยู่กับธนาคาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมคนร้ายเพื่อดำเนินคดี ซึ่งคนร้ายเป็นอดีตลูกน้องของเจ้าของบัญชีนั้น
นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ได้เปิดเผยว่า เรื่องนี้ธนาคารให้ความสำคัญและได้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าพนักงานสาขาได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินตามเช็คอย่างถูกต้อง โดยมีการตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของเช็คและเป็นเช็คที่ธนาคารมอบให้ลูกค้า ไม่ได้เป็นเช็คที่ถูกอายัดหรือถูกระงับ รวมทั้งมีเงินในบัญชีเพียงพอ
ตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชี และมีการสั่งจ่ายเช็ครวม 18 ฉบับ ธนาคารไม่ได้รับแจ้งให้อายัดหรือระงับการใช้เช็คจากลูกค้าแต่อย่างใด ดังนั้น พนักงานสาขาจึงให้บริการเบิกเงินตามเช็คสั่งจ่ายตามปกติ
“เรื่องนี้ธนาคารมิได้นิ่งนอนใจ และได้ให้ความร่วมมือกับลูกค้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบหาข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาธนาคารได้มอบเอกสารให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกครั้งและโดยทันที สำหรับเอกสารที่เหลือ หากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ธนาคารก็พร้อมที่จะมอบให้ทันทีเช่นเดียวกับที่ผ่านมา”
นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ธนาคารเข้าใจความเดือดร้อนของลูกค้า และยินดีให้ความร่วมมือลูกค้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการใดๆ ตามกระบวนการยุติธรรม และธนาคารก็พร้อมที่จะรับผิดชอบหากที่สุดของกระบวนการยุติธรรมพบว่าเป็นข้อบกพร่องของธนาคาร
สำหรับกรณีนี้ ธนาคารอยากฝากถึงลูกค้าและประชาชน หากพบว่าเอกสารทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นสมุดบัญชีเงินฝาก หรือสมุดเช็คสูญหาย ต้องรีบแจ้งความรวมทั้งแจ้งธนาคารให้ทำการอายัด เพื่อช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งธนาคารยินดีที่จะดูแลและให้บริการเพื่อปกป้องเงินฝากของลูกค้าอย่างดีที่สุด
จากที่ลูกค้าธนาคารกรุงไทย สาขาพิจิตร รายนายพิศ วิริยะอารีธรรม ได้ร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีเช็คสั่งจ่ายไม่สามารถเบิกเงินได้เนื่องจากเงินในบัญชีไม่เพียงพอ ทั้งที่มีเงินฝากอยู่กับธนาคาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมคนร้ายเพื่อดำเนินคดี ซึ่งคนร้ายเป็นอดีตลูกน้องของเจ้าของบัญชีนั้น
นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ได้เปิดเผยว่า เรื่องนี้ธนาคารให้ความสำคัญและได้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าพนักงานสาขาได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินตามเช็คอย่างถูกต้อง โดยมีการตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของเช็คและเป็นเช็คที่ธนาคารมอบให้ลูกค้า ไม่ได้เป็นเช็คที่ถูกอายัดหรือถูกระงับ รวมทั้งมีเงินในบัญชีเพียงพอ
ตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชี และมีการสั่งจ่ายเช็ครวม 18 ฉบับ ธนาคารไม่ได้รับแจ้งให้อายัดหรือระงับการใช้เช็คจากลูกค้าแต่อย่างใด ดังนั้น พนักงานสาขาจึงให้บริการเบิกเงินตามเช็คสั่งจ่ายตามปกติ
“เรื่องนี้ธนาคารมิได้นิ่งนอนใจ และได้ให้ความร่วมมือกับลูกค้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบหาข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาธนาคารได้มอบเอกสารให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกครั้งและโดยทันที สำหรับเอกสารที่เหลือ หากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ธนาคารก็พร้อมที่จะมอบให้ทันทีเช่นเดียวกับที่ผ่านมา”
นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ธนาคารเข้าใจความเดือดร้อนของลูกค้า และยินดีให้ความร่วมมือลูกค้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการใดๆ ตามกระบวนการยุติธรรม และธนาคารก็พร้อมที่จะรับผิดชอบหากที่สุดของกระบวนการยุติธรรมพบว่าเป็นข้อบกพร่องของธนาคาร
สำหรับกรณีนี้ ธนาคารอยากฝากถึงลูกค้าและประชาชน หากพบว่าเอกสารทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นสมุดบัญชีเงินฝาก หรือสมุดเช็คสูญหาย ต้องรีบแจ้งความรวมทั้งแจ้งธนาคารให้ทำการอายัด เพื่อช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งธนาคารยินดีที่จะดูแลและให้บริการเพื่อปกป้องเงินฝากของลูกค้าอย่างดีที่สุด