ศูนย์ข่าวขอนแก่น - มข.ตั้งกรรมการบริหารจัดการกองทุนหลวงพ่อคูณเพื่อพระภิกษุอาพาธ ดึงกรรมการวัดบ้านไร่ และญาติร่วมด้วย เผยยอดเงินบริจาคหลังหักค่าใช้จ่ายเหลือร่วม 45 ล้านบาท เล็งสร้าง “พิพิธภัณฑ์ครูใหญ่หลวงพ่อคูณ” ไว้เป็นอนุสรณ์รำลึก เช่นเดียวกับเกจิดังหลายท่าน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่บริเวณชั้น 1 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชาและสถานที่ให้ประชาชนได้กราบสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ โดยมีการเชื่อมสัญญาณจากชั้น 7 ห้องพิพิธภัณฑ์ใหญ่ อาคารเรียนรวม ซึ่งเป็นสถานที่ดองสรีระสังขารในการเป็นอาจารย์ใหญ่ให้แก่นักศึกษาแพทย์ ลงมายังจุดที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้
ยังคงมีประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาทยอยกันมากราบไหว้หลวงพ่อคูณอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกบัวให้บริการฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำในจุดดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในภาพรวม เนื่องจากมีการนำภาพของหลวงพ่อคูณ รวมไปถึงรูปหล่อของหลวงพ่อคูณ มาทำการติดตั้งในจุดดังกล่าวเพิ่มเติม ขณะเดียวกันยังมีการตั้งจุดรับบริจาคเพื่อสมทบกองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เพื่อพระภิกษุอาพาธ ไว้ในจุดดังกล่าวด้วย
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า จุดกราบสรีระสังขารที่ รพ.ศรีนครินทร์ได้จัดให้บริการนั้นจะติดตั้งต่อเนื่องไปโดยไม่มีกำหนด โดยจะมีการเชื่อมสัญญาณจากชั้น 7 ลงมาให้ประชาชนได้ชมอ่างดองสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสรีระสังขารของท่าน หลังครบกำหนด 3 สัปดาห์พบว่าสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณยังคงเป็นปกติ
โดยเมื่อครบกำหนดของการดองสรีระสังขาร 1 ปี ก็จะเข้าสู่กระบวนการจัดการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ปีที่ 2 และ 3 ในภาควิชากายวิภาคศาสตร์ต่อไป
ขณะที่ยอดเงินบริจาคตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ทั้งจากการเปิดจุดรับบริจาคในช่วงของการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล และการโอนสมทบเข้าในบัญชีธนาคารที่ระบุนั้น สรุปยอด ณ วันที่ 5 มิ.ย. 58 อยู่ที่ 52,300,000 บาท ขณะที่รายจ่ายในศาสนพิธีตลอดทั้ง 9 วัน 8 คืนนั้นอยู่ที่ประมาณ 7,000,000 บาท ซึ่งคณะกรรมการร่วมทุกฝ่ายได้ทำการพิจารณาจัดสรรการเบิก-จ่ายตามระเบียบไปแล้ว ทำให้ยอดเงินสุทธิในเงินดังกล่าวนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 45,000,000 บาท
โดยในพินัยกรรมของท่านระบุชัดเจนว่า เงินที่ได้จากการทำบุญนั้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การใช้จ่ายในงานศาสนพิธี ซึ่งมีรายจ่ายรวมกว่า 7 ล้านบาท และส่วนที่ 2 คือการใช้ในการให้ความช่วยเหลือในด้านของการรักษาพยาบาลให้พระภิกษุสงฆ์อาพาธ ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ซึ่งในการบริหารจัดการกองทุนดังกล่าว คณะแพทยศาสตร์ได้นำเงินดังกล่าวตั้งเป็นกองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เพื่อพระภิกษุอาพาธ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการกองทุน
โดยจะมีคณะกรรมการทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วย อธิการบดี มข. คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก รวมทั้งเชิญญาติของหลวงพ่อคูณ และคณะกรรมการวัดบ้านไร่หรือลูกศิษย์จาก จ.นครราชสีมา เข้าร่วมในการบริหารจัดการกองทุนดังกล่าว เพื่อให้เกิดความโปส่งใส และสามารถตรวจสอบได้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์อาพาธตามที่หลวงพ่อคูณระบุทั้งหมด
รศ.นพ.ชาญชัยกล่าวว่า ทางคณะแพทยศาสตร์ได้เตรียมจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ครูใหญ่ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่คณะแพทยศาสตร์ มข. เพื่อร่วมระลึกในความเมตตาของหลวงพ่อคูณ โดยจะมีการรวบรวมชีวประวัติ รวมไปถึงอัฐบริขารและทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อคูณ โดยเฉพาะกับช่วงของการรับกิจนิมนต์มายังคณะแพทยศาสตร์ มาจนถึงการประกอบพระราชทานเพลิงศพที่ จ.ขอนแก่น
ซึ่งคณะกรรมการร่วมหลายฝ่ายต่างมีความเห็นในการดำเนินการจัดสร้างเพื่อไว้เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของไทยเช่นเดียวกันกับเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน