xs
xsm
sm
md
lg

สสจ.เชียงใหม่รับเสี่ยงพบผู้ป่วย “ไวรัสเมอร์ส” กำชับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันเข้ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองนายแพทย์สาธารณสุขยอมรับ เชียงใหม่เป็นพื้นที่เสี่ยงพบผู้ป่วย “ไวรัสเมอร์ส” เหตุเป็นเมืองท่องเที่ยว มีชาวต่างชาติเข้าออกจำนวนมาก รวมทั้งมีเที่ยวบินตรงไปกลับระหว่างประเทศเกาหลีใต้ที่พบการแพร่ระบาดของโรคด้วย เผยสั่งกำชับเข้มงวดทุกมาตรการเฝ้าระวังป้องกันกับโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนทุกแห่งแล้ว

ดร.ทันตแพทย์ สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ “ไวรัสเมอร์ส” หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นโรคระบบทางเดินหายใจจากเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ (MERS-CoV : Middle East Respiratory Syndrome) ตระกูลเดียวกับโรคซาร์ส ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศในตะวันออกกลาง พบครั้งแรกที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย และมีการแพร่ระบาดไปในหลายประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศเกาหลีใต้ที่มีประชาชนติดเชื้อดังกล่าวเป็นจำนวนมากว่า

ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานตรวจพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าจังหวัดเชียงใหม่มีความเสี่ยงที่จะพบผู้ป่วยจากเชื้อดังกล่าว เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีเที่ยวบินตรงไปมาระหว่างเชียงใหม่กับประเทศเกาหลีใต้ ที่พบมีผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวนี้เป็นจำนวนมากด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการเฝ้าระวังป้องกันนั้น ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประชุมร่วมกับโรงพยาบาลทุกแห่งทั้งรัฐและเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว เพื่อกำชับซักซ้อมความเข้าใจมาตรการต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ของไวรัสชนิดนี้ โดยเฉพาะมาตรการคัดกรองผู้ป่วย ที่หากพบว่ามีอาการไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียสและมีประวัติเดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ ทั้งกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและประเทศเกาหลีใต้ ให้มีการคัดแยกผู้ป่วยทำการรักษาในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ต่างหากแยกจากผู้ป่วยทั่วไป เพื่อเฝ้าระวังตรวจสอบให้ชัดเจนเสียก่อน ป้องกันการแพร่ระบาดในกรณีที่เป็นเชื้อดังกล่าวจริง ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกันกับการรับมือเชื้ออีโบลาในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ในช่วงนี้นั้น ดร.ทันตแพทย์ สุรสิงห์ แนะนำว่า หากเป็นไปได้ควรงดการเดินทางไปในประเทศที่พบว่ามีการระบาดของเชื้อดังกล่าวช่วงนี้เพื่อหลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องเดินทางต้องระมัดระวังและป้องกันตัวเป็นพิเศษ โดยหลีกเลี่ยงการเข้าไปในจุดที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ เช่น โรงพยาบาล หรือพื้นที่ที่มีคนแออัด เป็นต้น รวมทั้งควรล้างมือบ่อยๆ กินของร้อน ใช้ช้อนกลาง และควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อดังกล่าวที่เป็นเชื้อตระกูลเดียวกับซาร์ส ซึ่งยังไม่มียารักษาและผู้ป่วยมีอัตราการเสียชีวิตสูง

สำหรับโรคเมอร์ส เป็นโรคที่พบใหม่ มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสชนิด corona virus ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม single-stranded RNA virus ไวรัสชนิดนี้มีหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์เป็นไวรัสที่ติดเชื้อ อยู่บริเวณส่วนต้นของทางเดินหายใจในคน เป็นสาเหตุอาการโรคหวัดทั่วๆ ไป แต่มีบางสายพันธุ์ที่ติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า เช่น อูฐ และค้างคาว เป็นต้น ต่อมาไวรัสสายพันธุ์นี้ได้มีการพัฒนาจนสามารถแพร่เข้ามาติดเชื้อในคนได้ โดยพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อครั้งแรกในประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งผู้ป่วยโดยทั่วไปจะมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจค่อนข้างรุนแรงและเฉียบพลัน มีอาการไข้ ไอ หายใจหอบและหายใจลำบาก

โดยผู้ป่วยเกือบทุกรายจะมีภาวะปอดบวม นอกจากนี้ ในผู้ป่วยอีกจำนวนมากจะมีอาการในระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ท้องร่วง ร่วมด้วย ผู้ป่วยบางรายมีภาวะไตวาย ซึ่งในจำนวนครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดจะเสียชีวิต ส่วนในผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือลดน้อยลง การแสดงของโรคอาจมีความแตกต่างออกไป ซึ่งระยะฟักตัวของโรคนี้จะมีระยะ 2-14 วัน

สถานการณ์ล่าสุดโรคติดเชื้อไวรัสเมอร์ส จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 58 พบผู้ป่วยยืนยันทั่วโลกจำนวน 1,154 ราย เสียชีวิต 431 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 37.35 ใน 25 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ จอร์แดน โอมาน คูเวต อียิปต์ เยเมน เลบานอน อิหร่าน ตุรกี อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ตูนิเซีย แอลจีเรีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และจีนแผ่นดินใหญ่


กำลังโหลดความคิดเห็น