xs
xsm
sm
md
lg

ซ้อนแผนรวบ “พ.ท.กำมะลอ” ขโมยชุดทหารใส่ตระเวนตุ๋นเงินพ่อค้าได้ไปหลายล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายจตุพัช ศรีทองกูล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 5 ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาแต่งชุดนายทหารต้มตุ๋มได้รับความเสียหายคนละหลานแสนบาท
กาญจนบุรี - ตำรวจท่าเรือ ร่วมมือนักธุรกิจเมืองกาญจนบุรีซ้อนแผนรวบ “พ.ท.กำมะลอ” อดีตทหารเกณฑ์ขโมยชุดนายทหารค่ายธนะรัชต์ ประจวบคีรีขันธ์ ตระเวนตุ๋นเงินนักธุรกิจทั้งในกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม ได้เงินหลายล้านบาท

วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสมคิด ศรีสงคราม อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 1 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เสี่ยโรงงานทำปุ๋ย เดินทางไปที่ สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เข้าพบ พ.ต.อ.เจนณรงค์ สมเสถียร ผกก.สภ.ท่าเรือ เพื่อขอชี้ตัว นายจตุพัช ศรีทองกูล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 5 ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาแต่งชุดนายทหารต้มตุ๋มได้รับความเสียหายคนละหลายแสนบาท

ทั้งนี้ พ.ต.อ.เจนณรงค์ สมเสถียร ผกก.สภ.ท่าเรือ เปิดเผยว่า วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสมคิด ได้เดินทางมาพบพร้อมกับแจ้งให้ทราบว่า กำลังจะนำเงินสด จำนวน 3 แสนบาท ไปจ่ายให้แก่ นายจตุพัช ที่อ้างตัวว่าเป็นนายทหารยศ พ.ท.สังกัดค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำไปวิ่งเต้นให้หน่วยงานภาครัฐอนุญาตให้นายสมคิด สามารถขุดบ่อเพื่อนำทรายไปขายได้ โดยวันที่ 2 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา นายสมคิด ได้จ่ายเงินไปแล้ว จำนวน 5 หมื่นบาท และมีการนัดหมายจ่ายเงิน จำนวน 3 แสนบาท ในวันที่ 5 มิ.ย.ที่บริเวณจุดตรวจจุดสกัดบ้านท่าตะคร้อ

แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลา นายสุพัชร กลับไม่มาตามที่นัดเอาไว้ โดยอ้างว่าติดธุระ และมีการขอเลื่อนเวลาให้นำเงิน จำนวน 3 แสนบาท มาจ่ายให้ในเวลา 17.30 น.ของวันเดียวกันที่บริเวณโรงงานปุ๋ยแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 12 ต.ตะคร้ำเอน ซึ่งนายสมคิด ได้เกิดเอะใจว่าทำไมต้องเปลี่ยนสถานที่จ่ายเงิน จึงเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ เพราะเชื่อว่าคงจะโดนหลอก เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเพื่อจับกุมตัวนายสุพัชร ด้วยการนำเงินทั้งหมดไปถ่ายเอกสาร

เมื่อถึงเวลานัดหมายตนจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.พิชัยพนธ์ ภักดีศิริเกษม รอง ผกก.สส.สภ.ท่าเรือ ร่วมกับ พ.ต.ท.มานพ น้ำประสานไทย สว.สส.สภ.ท่าเรือ พ.ต.ต.อำนาจ ปรีชาวาท สวป.สภ.ท่าเรือ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปซุ่มโป่งยังจุดนัดหมาย โดยให้นายสมคิด นำเงินสดจำนวน 3 แสนบาท ไปรอจ่ายให้แก่นายสุพัชร จนกระทั่งถึงเวลานัดหมาย พบนายสุพัชร ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กต 5571 สุพรรณบุรี มาพบนายสมคิด ที่รออยู่ หลังจากจ่ายเงินแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม จากนั้นจึงคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ท่าเรือ

จากการสอบสวน นายสุพัชร ยอมรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รู้จักกับหลานชายชองนายสมคิดโดยบังเอิญ เนื่องจากหลายชายของนายสมคิด นำรถแบ็กโฮไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภออู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยหลานชายของนายสมคิดได้เล่าให้ฟังว่า นายสมคิด กำลังกลุ้มใจเรื่องที่จะขุดทรายในที่ของตนเองไปขาย แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงจะไปขออนุญาตจากหน่วยงานของรัฐได้เพราะไม่รู้จักใครเลย ตนจึงบอกกับหลานชายของนายสมคิด ว่า ตนสามารถช่วยเหลือได้ และตนสอบถามจนรู้ว่าบ้านของนายสมคิด อยู่ที่ไหน

จากนั้นตนจึงขับรถยนต์คันดังกล่าวมาพบนายสมคิด ที่บ้าน พร้อมกับแต่งตัวชุดทหารยศพันโทแบบเต็มยศ ซึ่งเครื่องแบบที่ตนใส่ตนขโมยมาจาก พ.ท.อภิธิศักดิ์ สุระวารีนนท์ เสนาธิการทหาร อดีตนายเก่าเมื่อสมัยที่ตนเป็นทหารเกณฑ์ และเคยรับใช้ด้วยการเป็นคนขับรถให้ ปัจจุบัน พ.ท.อภิธิศักดิ์ ประจำอยู่ที่ค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์

เมื่อพบกับนายสมคิด จึงแจ้งให้ทราบว่า มีชาวบ้านร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี เกี่ยวกับการขุดทรายไปขาย โดยอ้างต่อนายสมคิด ว่า สามารถวิ่งเต้นช่วยเหลือให้ทำการขุดทรายได้ แต่ต้องจ่ายเงินค่าวิ่งเต้นให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นเงิน จำนวน 3.5 แสนบาท จนกระทั่ง นายสมคิด หลงเชื่อ และได้จ่ายเงินให้แก่ตน จำนวน 5 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือนัดให้นำมาจ่ายในวันที่ 5 มิ.ย.แต่สุดท้ายก็มาถูกเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุมตัวได้เสียก่อน นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังยอมรับสารภาพอีกว่า หากทราบว่านักธุรกิจรายใดกำลังเดือดร้อนก็จะสวมชุดเครื่องแบบที่มีอยู่ไปหลอกลวงต้มตุ๋น และทำมาแล้วหลายราย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม และจังหวัดสุพรรณบุรี

หลังจากรับสารภาพจึงประสานไปยัง พ.ท.ณัฐพงษ์ ตะโกใหญ่ ผบ.ป.พัน 109/ผบ.ชุดประสานงานประจำพื้นที่ ป.พัน 109 และ ร.อ.สุวิทย์ ทองกวาว หน.ชุดประจำพื้นที่ ป.พัน 109 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเดินทางมาร่วมตรวจสอบ และจากการตรวจค้นภายในรถยนต์ยังพบเอกสารหลักฐานหลายอย่าง เช่น เสื้อผ้า บัตรประจำตัวประชาชน และบัตรประจำตัวอดีตทหารเกณฑ์ จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านนายสมคิด ศรีสงคราม ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้ใส่เครื่องแบบเต็มยศมาหาตนที่บ้าน และบอกแก่ตนว่า สามารถช่วยวิ่งเต้นเกี่ยวกับเรื่องการขุดทรายไปขายได้ แต่จะต้องจ่ายเงินให้จำนวน 3.5 แสนบาท เพื่อนำไปวิ่งเต้น โดยอ้างกับตนอีกว่าสนิทสนมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีคนปัจจุบัน และสนิทกับเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งรู้จักกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าตนถูกชาวบ้านร้องเรียน โดยจะวิ่งเต้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมเข้ามาตรวจสอบ

จากการที่ได้พูดคุย รวมทั้งการแต่งตัวนายทหารเต็มยศ ตนจึงหลงเชื่อคำกล่าวอ้างทั้งหมด และได้จ่ายเงินไปก่อนแล้ว จำนวน 5 หมื่นบาท เพราะมีเงินอยู่แค่นนั้น และมีการนัดหมายจ่ายเงินจำนวน 3 แสนบาท ในวันที่ 5 มิ.ย.แต่เมื่อถึงเวลาผู้ต้องหากลับบอกติดธุระ ขอเลื่อนเวลาและสถานที่จ่ายเงิน ซึ่งก่อนหน้านั้นหลังจากที่ตนจ่ายเงินไป จำนวน 5 หมื่นบาท ตนได้ไปเล่าเรื่องดังกล่าวให้แก่เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่าระวังจะโดนหลอก ตนจึงเกิดเอะใจขึ้นมา และตัดสินใจเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ เพื่อขอคำปรึกษา จนกระทั่งมีการวางแผนจับกุมในที่สุด

รายงานข่าวว่า หลังจากมีข่าวลือออกไปว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ได้มีนักธุรกิจจากจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดนครปฐม รวมทั้งจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปชี้ตัวผู้ต้องหา พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยนายธนกร สมบูรณ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/11 หมู่ 14 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม อาชีพรับเหมาก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร แจ้งว่าถูกผู้ต้องหาตุ้มตุ๋นเงินไป จำนวน 2.5 แสนบาท นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายอีกกว่า 10 ราย ผู้ต้องหาได้เงินไปหลายล้านบาท

นายจตุพัช ศรีทองกูล
กำลังโหลดความคิดเห็น