ตราด - รองปลัดกระทรวงมหาดไทยและ ป.ป.ส. ลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด และพบประชาชน 2 อำเภอ พร้อมชื่นชมจังหวัดทำงานดี จี้แก้ปัญหาหมู่บ้านเป้าหมายที่มีปัญหาใน 6 เดือน
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานคณะอนุกรรมการกำกับติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เดินทางมาที่ จ.ตราด พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เพื่อติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด โดยมี นายณรงค์ ธีระจันทรางกูร ผู้ว่าราชการจัหวัดตราด และส่วนราชการเข้าร่วม พร้อมบรรยายสรุปถึงการแก้ปัญหายาเสพติดตามแนวทางการชี้วัดที่รัฐบาลได้มุ่งเน้นไว้
นายอภินันท์ กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันมุ่งเน้นเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีแผนดำเนินการเรื่องนี้ดีที่สุดในโลกมานานกว่า 10 ปีแล้ว เพราะแต่ละรัฐบาลได้มีการกำหนดตัวชี้วัดในการติดตาม และประเมินผลงานไว้อย่างชัดเจน และเป็นระบบ โดยเฉพาะการกำหนดตังเลขชี้วัด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดนี้ได้มุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพมากกว่า แต่ก็ยังยึดเรื่องตัวเลขเช่นกัน แม้หากจะลดลงไปบ้างคงไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่อาจจะว่ากล่าวกันบ้าง อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเอาเป็นเอาตาย ซึ่งจากการบรรยายสรุปได้เห็นการทำงานของจังหวัดตราดตรงเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ต้องขอชื่นชม
ด้าน นายวิตกวัลย์ สุนทรขจิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เน้นการแก้ปัญหายาเสพติด 3 ด้านหลัก คือ การป้องกัน การบำบัด และการปราบปราม ทั้งนี้ ในการป้องกันนั้นเน้นไปที่ 3 กลุ่ม คือ เยาวชน ผู้ใช้แรงงาน และประชาชนทั่วไป โดยในกลุ่มเยาวชนยังพบว่าที่ จ.ตราด ยังมีร้านขายยาที่นำไปเป็นส่วนผสมทำยาเสพติดเสพได้ ซึ่งไม่คิดว่ายาตัวนี้จะแพร่มายัง จ.ตราด เพราะเห็นมีที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก จึงฝากให้ทางจังหวัด และสาธารณสุขได้ควบคุม และตรวจสอบ ส่วนเรื่องอื่นไม่ค่อยมีปัญหามากนัก
สำหรับสิ่งที่คณะอนุกรรมการชุดนี้เป็นห่วงคือ 7 หมู่บ้านที่มีปัญหายาเสพติดมาก ต้องเร่งเข้าไปแก้ปัญหาให้ดีขึ้น และให้กลับมาสู่หมู่บ้านที่มีปัญหายาเสพติดที่ลดลง ส่วนหมู่บ้านที่ปลอดยาเสพติด 179 หมู่บ้าน หรือร้อยละ 67 จาก 267 หมู่บ้านจะต้องไม่ให้ลดลง เพราะอาจจะทำให้ไม่ครบองค์ประกอบในเรื่องของตัวชี้วัดได้
และในช่วงบ่ายคณะอนุกรรมการจะแบ่งเป็น 2 ชุด เพื่อลงพื้นที่จัดเวทีเสวนาที่บ้านเกาะตะเคียน ต.วังกระแจะ อ.เมือง และที่บ้านตากแว้ง หมู่ 7 ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ ก่อนเดินทางไป จ.จันทบุรี เพื่อตรวจราชการวันที่ 4 มิถุนายนต่อไป