นครปฐม - ผบช.ภ.7 นำทีมผู้บังคับการภูธรจังหวัด 8 จังหวัด แถลงการกวาดล้างอาชญากรรมรวบอาวุธปืนได้หลายร้อยกระบอก ยาเสพติดแบ่งเป็นยาบ้า 1 แสนเม็ด พร้อมยาเสพติดชนิดอื่นอีกเพียบ และได้ผู้ต้องหา 89 ราย ส่วนคดียิงตำรวจสันติบาลจับกุมคนร้ายขี่ จยย.แล้ว ส่วนมือยิงยังหลบหนี
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมกวาดล้างเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 โดยมีการจับกุมอาวุธปืน ยาเสพติด รถจักรยานยนต์ รวมถึงผู้ต้องหาคดีค้างเก่าจำนวนมาก
พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ในการแถลงผลการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้สืบเนื่องมาจากในช่วงที่ผ่านมา มีเหตุคดีสะเทือนขวัญ คดีประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย เพศ และทรัพย์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายครั้ง จึงได้มีนโยบายสั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ ในสังกัด และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ทำการระดมกวาดล้างอาชญากรรมพร้อมๆ กัน ระหว่างวันที่ 27 พ.ค.-1 มิ.ย.58 เพิ่มเติมจากการระดมกวาดล้างอาชญากรรมประจำเดือน พ.ค.58 โดยเน้นเป้าหมายสำคัญในคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด บ่อนการพนัน แหล่งมั่วสุม อบายมุขฯ
โดยมีผลการจับกุมหลายรายการ ประกอบด้วย 1.อาวุธปืนทั่วไป จำนวน 306 กระบอก อาวุธปืนมีทะเบียน จำนวน 118 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 188 กระบอก 2.อาวุธปืนสงครามจำนวน 1 กระบอก ปืนคาร์บิน จำนวน 1 กระบอก 3.เครื่องกระสุนปืน จำนวน 2,087 นัด 4.เครื่องกระสุนปืนสงครามคาร์บิน จำนวน 24 นัด วัตถุระเบิด จำนวน 2 ลูก
5.ยาเสพติดยาบ้า จำนวน 129,385.50 เม็ด ไอซ์ จำนวน 466.06 กรัม กัญชาแห้ง จำนวน 2,11.89 กรัม กัญชาสด จำนวน 300 กรัม กัญชาสด จำนวน 1 ตัน กระท่อม จำนวน 233,824.87 กรัม เคตามีน จำนวน 1 กรัม ฝิ่น จำนวน 1 ห่อ 6.คดีค้างเก่า จำนวน 83 ราย 89 คน
นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมรถจักรยานยนต์ที่มีการไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รวมถึงมีการดัดแปลง หรือรถของแก๊งซิ่งกวนเมืองจำนวนหลายสิบคัน โดยเป็นการดำเนินการแก้ไขปัญหาเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นอย่างเข้มงวด และจะมีการดำเนินการอย่างเข้มนี้ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
ด้าน พล.ต.ต.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.นครปมฐม กล่าวว่า สำหรับคดีคนร้ายบุกยิงใส่รถยนต์เก๋งทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเสียชีวิตหลังไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เหตุเกิดในจังหวัดนครปฐมนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไว้ได้แล้ว เหลือเพียง นายหรั่ง พี่ชายที่ยังหลบหนี โดยมีการออกหมายจับไปแล้ว