อุบลราชธานี - รอง ผบ.ตร.ดูแลงานปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ระบุแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติเปลี่ยนวิธีการ และเส้นทางการลำเลียงไม้ออกจากประเทศไทยใหม่ จึงกำชับให้หน่วยปราบปรามทุกส่วนทำการปราบปรามร่วมกัน พร้อมใช้กฎหมาย ปปง.ตามยึดทรัพย์กลุ่มค้าไม้ และผู้สนับสนุน ขณะที่วันเดียวกัน จับแก๊งขนไม้รายใหญ่ พร้อมยึดของกลางจำนวนมาก
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (29 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. (ศปถ.) และเป็น ผอ.ศปทส.ตร. แถลงข่าวการจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ได้ผู้ต้องหา 2 คน รถยนต์ใช้ขนไม้ 2 คัน ไม้พะยูงถากเปลือกใหม่ยาวตั้งแต่ 1-2 เมตร จำนวน 33 ท่อน คิดเป็นปริมาตร 0.97 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 28 พ.ค. พ.ต.อ.วีระพงษ์ ทองจันดี ผกก.สภ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ สืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงข้ามชาติจากอำเภอเขื่องใน จ.อุบลราชธานี ไปส่งให้นายทุนชื่อเสี่ยน้อย ที่ จ.มุกดาหาร โดยใช้เส้นทางผ่านอำเภอชานุมาน จึงสนธิกำลังร่วมกับชุดปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ วางจุดสกัดจับบนถนนปทุมราชวงศา-ชานุมาน บริเวณบ้านเมืองเก่า-โคกจักจั่น ต.ชานุมาน
ถึงเวลาพบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน 4931 กทม. จำหมวดอักษรไม่ได้ แล่นผ่านมาด้วยความเร็วมีพิรุธ โดยมีรถเก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ทะเบียน กท 3550 อุดรธานี ซึ่งบรรทุกของหนักแล่นตามหลัง และมีรถกระบะนิกสันนาวารา สีขาว ทะเบียน บฉ 1410 มุกดาหาร แล่นปิดท้าย
จึงขับรถไล่ติดตามไปทันที่บริเวณถนนริมหมู่บ้านนิคมแปลง 3 ต.ชานุมาน โดยคนขับทราบชื่อคือ นายนิพนธ์ จรลี อายุ 47 ปี ชาวบ้านอำเภอดอนตาล จ.มุกดาหาร กระโดดลงจากรถวิ่งไปขึ้นรถนิกสันนาวารา ที่เป็นรถคุ้มกัน ซึ่งมี น.ส.รัชฎาภรณ์ บุญล้อม อายุ 32 ปี เป็นคนขับมารับเตรียมหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับตัวคนทั้ง 2 ไว้ได้
ทั้งคู่ให้การรับสารภาพได้รับค่าจ้างจากเสี่ยน้อยคนละ 10,000 บาท ให้มาขับรถขนไม้ นำไปลงเรือข้ามแม่น้ำโขงเข้าประเทศลาว แล้วส่งต่อไปยังประเทศจีน จึงตั้งข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต คุมตัวดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่วันเดียวกัน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. (ศปถ.) และเป็น ผอ.ศปทส.ตร. ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการลักลอบตัดไม้และทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่อุทยานภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี เพื่อกำชับให้ทุกหน่วยงานร่วมกันปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูง เนื่องจากแก๊งลักลอบตัดไม้มีการเปลี่ยนวิธีการ และเส้นทางการลำเลียงไม้ออกไปยังประเทศที่ 3 รูปแบบใหม่
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 เจ้าหน้าที่ในจังหวัดอุบลราชธานี จับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับไม้พะยูงได้ จำนวน 143 ครั้ง ผู้ต้องหา 268 คน ยึดไม้พะยูงได้ 7,593 ท่อน คิดเป็นปริมาตร 165.20 ลบ.ม. และมีมูลค่าในประเทศเกือบ 200 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน แก๊งลักลอบตัดไม้แล้วลำเลียงส่งต่อไปประเทศที่ 3 มีการเปลี่ยนวิธี และเส้นทางใช้ลักลอบขนไม้ออกนอกประเทศ โดยลักลอบตัดไม้บนเทือกเขาพนมดงรักในฝั่งไทย แล้วใช้รถจักรยานยนต์ หรือรถลากขนไม้ข้ามไปยังประเทศลาว เพื่อนำไปรวมหมอนก่อนส่งต่อไปยังประเทศที่สามในลักษณะของกองทัพมด
ทำให้เจ้าหน้าที่ไทยต้องมีการลาดตระเวนจับกุมตามสันเขา เพื่อป้องกัน และลดการลำเลียงไม้ออกจากประเทศไทย และตลอดช่วงที่ผ่านมา จากสถิติพบว่า การลักลอบตัดไม้ และลำเลียงไปต่างประเทศมีสถิติลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เอาจริงต่อเรื่องนี้ หากจับกุมได้จะมีการสืบสวนหาตัวนายทุน และผู้สนับสนุนเพื่อใช้กฎหมาย ปปง.เข้ามายึดทรัพย์ต่อกลุ่มค้าไม้พะยูงข้ามชาติเหล่านี้ด้วย