ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “เจ้ายอดศึก” ทำทหารไทยใหญ่สวนสนามวันกองทัพเต็มดอยไตแลง พร้อมถอดบทเรียน 57 ปีกู้ชาติไทยใหญ่ ชี้สัญญาหยุดยิงในพม่าเริ่มง่อนแง่นหลังกองทัพพม่าถล่มโกก้าง
“ดอยไตแลง” พื้นที่ชายแดนรัฐฉาน ประเทศพม่า ติดกับ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ฐานที่มั่นทางทหารสำคัญของกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ ภายใต้การนำของ พล.ท.เจ้ายอดศึก ประธานสภากอบกู้รัฐฉาน (RCSS) จะจัดงานวันกองทัพไทยใหญ่ ขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม ของทุกปี
ปีนี้ พล.ท.เจ้ายอดศึก พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และผู้แทนชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติต่างๆ ในพม่า ต่างเดินทางร่วมประกอบพิธีวันกองทัพไทยใหญ่ ที่ยืนหยัดสู้รบกับรัฐบาลพม่าเพื่อทวงคืนเอกราชในดินแดนของตนเองมานานถึง 57 ปี
กิจกรรมในงานครั้งนี้ นอกจากจะมีการสวนสนามของทหารจากเมืองต่างๆ จำนวน 1,800 นาย แสดงความพร้อมของกองทัพรัฐฉานต่อหน้าประชาชนชาวไทยใหญ่ พร้อมร่วมพิธีวางพวงมาลาต่อบรรพบุรุษของชาวไทยใหญ่ คือ เจ้าเสือข่านฟ้า ปฐมกษัตริย์ และเจ้ากอนเจิง ผู้นำการต่อสู้กับพม่าในอดีต ที่มีอนุสาวรีย์อยู่กลางสนามแล้ว ยังมีการกล่าวสุนทรพจน์ของผู้นำเพื่อตอกย้ำอุดมการณ์ในการพัฒนารัฐฉานภายใต้การสร้างเสรีภาพในดินแดน
นอกจากนั้น เชิญทหารที่ผ่านการสู้รบกับรัฐบาลพม่าจนร่างกายพิการเข้ารับเกียรติบัตรเชิดชู และร่วมเลี้ยงอาหาร พร้อมทั้งให้สวัสดิการแก่ทหารที่กำลังอยู่ในสนามรบมากกว่า 10,000 นาย ท่ามกลางฝนตกอย่างต่อเนื่อง
เจ้ายอดเมือง คณะกรรมการฝ่ายประสานงานกิจการต่างประเทศ กองทัพไทยใหญ่ กล่าวว่า งานวันกองทัพไทยใหญ่จะจัดขึ้นทุกวันที่ 21 พฤษภาคม ปีนี้เป็นปีที่ 57 แล้ว นอกจากการวางพวงมาลารำลึกถึงบรรพบุรุษที่ต่อสู้เพื่อชาวไทยใหญ่แล้ว ยังมีการบวงสรวงทำบุญสะเดาะเคราะห์ให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสนามรบ
พร้อมทั้งเป็นการสื่อสารให้ชาวรัฐฉานไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าไหนก็ตามที่ได้รับทราบความเคลื่อนไหวการต่อสู้เพื่ออธิปไตยในดินแดนรัฐฉานทั้งหมด 60,2000 ตารางไมล์ ให้ได้รับรู้สิทธิ และหน้าที่ที่จะทำต่อประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อให้ประชาชนในรัฐฉานได้ร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองไปสู่เสรีภาพและความเจริญก้าวหน้า
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมยกย่องทหารที่พิการจากการสู้รับ ไม่ว่าทางร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ให้กำลังใจแก่ทหารหาญเหล่านั้น และให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เห็นว่าเราเป็นประเทศที่เคยยิ่งใหญ่มาก่อน ซึ่งพลเมืองในชาติจะต้องร่วมกันรักษาความยิ่งใหญ่ให้สืบทอดต่อไป
หลังจากพิธีทางทหารจบลง ผู้นำกองทัพรัฐฉานได้ปล่อยให้ทหารที่มาร่วมงานได้พักผ่อน มีกิจกรรมสนุกสนานรื่นเริง ก่อนเดินทางกลับเข้าไปประจำการยังหัวเมืองต่างๆ ในรัฐฉาน โดยผู้นำรัฐฉานเชื่อว่ารัฐบาลพม่าจะไม่สามารถสร้างความชอบธรรมในการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้ พม่ายังใช้วิธีเดิมๆ ที่มุ่งกำจัดชนชาติต่างๆ ออกไปจากอำนาจ และเชื่อว่ากองทัพรัฐฉานจะหลีกเลี่ยงสงครามไม่ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้เพราะแม้ว่ารัฐบาลพม่าโดยการนำของประธานาธิบดีเต็งเส่ง ประกาศต่อประชาคมโลกว่า พม่าจะเปลี่ยนแปลงการปกครองจากเผด็จการทหารเข้าสู่โหมดของการปกครองแบบประชาธิปไตย และจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) พร้อมทั้งวางโครงการขนาดใหญ่เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน จนนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงกันชนกลุ่มน้อยทั่วประเทศก็ตาม
แต่ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาชนกลุ่มน้อยต่างๆ ในพม่าที่มีกองกำลังได้ลุกขึ้นมาจัดงานวันกองทัพแสดงแสนยานุภาพของตัวเองอย่างเข้มแข็ง และแข็งกร้าว ทั้งกองทัพกะเหรี่ยง, กองทัพมอญ และล่าสุดคือ กองทัพฉาน
ขณะเดียวกัน พื้นที่รัฐฉานตอนเหนือยังคงมีเสียงปืนดังขึ้นตลอดเวลา หลังทหารพม่านับ 20,000 นาย พร้อมอาวุธหนักบุกเข้าจัดการกับกองกำลังในเขตโกก้าง เชื้อสายจีน ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มว้าบางส่วน
ผู้นำทางทหารรายหนึ่งในกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่บอกว่า สถานการณ์ดังกล่าวทำให้การเจรจาต่างๆ ของพม่าที่มีต่อชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติต่างๆ ในพม่าหยุดชะงักลง พม่าทำได้เพียงการยื้อเวลาออกไป ซึ่งสัญญาการหยุดยิงและปรองดองสู่ประชาธิปไตยมีเวลาอยู่ 2 ปี ก่อนที่สัญญาจะหมดอายุลง
“ประธานาธิบดีเต็งเส่งอาจไปไม่ถึงดวงดาวในฐานะผู้นำที่เปิดประตูสู่ประชาธิปไตยในพม่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเต็งเส่งพูดอย่างหนึ่ง แต่กองทัพพม่าทำอีกอย่างหนึ่ง”
