นครพนม - หมู่บ้านอนุรักษ์ “โค-กระบือ” นครพนมยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงในหลวง เมินปุ๋ยเคมีราคาแพง ลดต้นทุนการทำนาโดยใช้มูลวัวควายปรับปรุงดิน และไม่จำเป็นต้องจุดไฟเผาหญ้าตอซังข้าวสร้างมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนมว่า ย่างเข้าสู่หน้าฝนเริ่มต้นทำนา เกษตรกรชาวนาในหลายพื้นที่เริ่มหว่านกล้าข้าวปรับแปลงนาใส่ปุ๋ยปรับปรุงดินกันแล้ว โดยเฉพาะที่บ้านหนองบัว หมู่ 1 ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่พากันอนุรักษ์โค-กระบือ ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งหมู่บ้านนี้ก็เริ่มลงมือทำนาเช่นกัน แต่ทุกปีชาวนาที่นี่ไม่มีปัญหาเรื่องปุ๋ยปรับปรุงดินและไม่จำเป็นต้องซื้อปุ๋ยเคมีราคาแพงทำให้ต้นทุนการทำนาสูงขึ้น เพราะใช้ปุ๋ยคอกมูลวัวควายปรับปรุงดินกัน
ลุงผัน ดอนพงษ์ วัย 60 ปี ผู้อาวุโสบ้านหนองบัว กล่าวว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้นิยมเลี้ยงโค-กระบือมาแต่บรรพบุรุษ ครัวเรือนละไม่ต่ำกว่า 10-15 ตัว ทั้งหมู่บ้านมีกระบือประมาณ 200 ตัว วัวประมาณ 400 ตัว ทำคอกขังที่บ้าน หน้าแล้งก็จะปล่อยกินหญ้าตามท้องทุ่งนา และวัวควายก็จะถ่ายมูลใส่ทุ่งนาและคอกขังที่บ้านด้วย
จึงทำให้หมู่บ้านมีขี้วัวขี้ควายเก็บสะสมเต็มคอก พอถึงฤดูลงนาก็จะใช้ปุ๋ยคอกบรรจุกระสอบมาตักหว่านในแปลงนาทุกแปลงโดยไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมีแพงๆ แถมทำให้ดินดีร่วนซุยนาข้าวงามได้ผลผลิตสูง และที่สำคัญหมู่บ้านเราไม่เคยจุดไฟเผาทุ่งหญ้าตอซังข้าวสร้างมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ เพราะทุ่งหญ้าถูกวัวควายจัดการเรียบเป็นอาหารชั้นดีนั่นเอง
และในช่วงลูกหลานเปิดเทอมก็ไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย แค่ขายควายในฝูงออกสักตัว ตัวละ 4-5 หมื่นบาทก็มีเงินหมุนเวียนเลี้ยงครอบครัวได้สบาย ซึ่งการทำไร่ทำนาทำเกษตรของหมู่บ้านแห่งนี้เดินรอยตามพ่อหลวงที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ไม่ลำบาก