หนองคาย - ผู้ว่าฯ หนองคายนำทีมบุกทลายโรงผลิตฝิ่นริมแม่น้ำโขง เจ้าของบ้านเผ่นหนี ตรวจค้นพบฝิ่นสุก 216 กิโลกรัม พร้อมอุปกรณ์ผลิตฝิ่น มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท คาดนำฝิ่นดิบจากประเทศเพื่อนบ้านมาเคี่ยวทำฝิ่นสุกรอส่งไปประเทศที่สาม
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (19 พ.ค.) นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายไพทูรย์ รักษ์ประเทศ ปลัดจังหวัดหนองคาย, พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จ.หนองคาย, น.อ.นพดล บุญเจริญ ผบ.นรข.เขตหนองคาย, พ.อ.ธานินทร์ สนิทชน รอง เสธ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พ.อ.ณรงค์ สวนแก้ว รอง เสธ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.ท.นิพนธ์ สมานชาติ สวญ.สภ.นางิ้ว, พ.ต.ต.สายัณห์ ผาพา สารวัตรสอบสวน สภ.นางิ้ว, เรือเอก เสรีย์ คมขำ หัวหน้าสถานีเรือสังคม, ร.ต.ท.ญ.วัชราภรณ์ วายโสกา นักวิทยาศาสตร์ สบ.1 พิสูจน์หลักฐาน จ.หนองคาย, พ.ต.ท.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ สว.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, สภ.นางิ้ว, ตชด.245, ฝ่ายปกครอง ได้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกร่วมกันเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 191 หมู่ 2 บ้านม่วง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย ริมถนนสังคม-ปากชม ด้านหลังบ้านติดกับแม่น้ำโขง
ซึ่งเป็นบ้านของนายประสงค์ อัญชลี อายุ 78 ปี และนางอุบล อัญชลี อายุ 54 ปี สองสามีภรรยา ขณะเข้าตรวจสอบไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน โดยพบว่าบริเวณบ้านของนายประสงค์ เนื้อที่ 30 ไร่ สร้างบ้าน 1 หลัง ด้านหลังทำเป็นโรงเรือน และปลูกสวนเงาะเต็มพื้นที่
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในโรงเรือนพบว่ามีการกั้นเป็นห้องเล็กๆ อยู่ภายใน 2 ห้อง ใช้เป็นห้องเก็บฝิ่นสุก ห่อด้วยพลาสติกสีชมพู 2 ขนาด ขนาดบรรจุฝิ่นสุก 500 กรัม จำนวน 30 ก้อน และขนาดบรรจุ 1 กก. จำนวน 201 ก้อน รวมน้ำหนัก 216 กิโลกรัม เป็นห้องเคี่ยวฝิ่นอีก 1 ห้อง
นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การแปรรูปฝิ่น มีทั้งเตาแก๊ส ถังแก๊สจำนวนมาก สารเคมีประเภทคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (ผงสีฟ้า) และผงสีเหลืองไม่ทราบชนิดอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่นำมาทดสอบกับน้ำยาทางเคมีพบว่าทั้งหมดเป็นฝิ่นจริง
ส่วนการตรวจค้นภายในบ้าน พบว่ามีการล็อกประตูด้านหน้าอย่างแน่นหนา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเตาแก๊สขนาดเล็กอยู่ภายในห้องนอน และได้เก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐานหลายอย่าง
นายอนุวรรัตน์ ชานัย กำนันตำบลบ้านม่วง กล่าวว่า นายประสงค์ เจ้าของบ้านเป็นชาวจังหวัดระยอง มาซื้อที่ดินทำสวนเงาะบริเวณดังกล่าวได้ประมาณ 20 ปี ส่วนภรรยาเป็นชาว จ.มหาสารคาม โดยนายประสงค์ป่วยเป็นโรคกระดูกเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น และทราบว่าระยะหลังมีการคลุกคลีกับสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ยอมให้เพื่อนบ้านเข้ามาในบริเวณบ้าน ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่านายประสงค์หึงหวงภรรยา โดยที่ภรรยาเองได้พาลูกสาวซึ่งยังเรียนอยู่ชั้นประถมฯ ไปเรียนที่ จ.ขอนแก่น
นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านหลังนี้ จึงได้ให้กำลังตำรวจ ทหาร เข้าตรวจสอบโดยใช้กฎอัยการศึกเข้าตรวจค้น แต่เจ้าของบ้านไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน โดยฝิ่นที่พบนี้เป็นขบวนการใหญ่และปริมาณมากกว่าทุกครั้งที่เคยทราบมา คาดว่าจะนำฝิ่นดิบมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่กระบวนการแปรสภาพด้วยการเคี่ยวให้เป็นฝิ่นสุกก่อนบรรจุตามน้ำหนัก ครึ่งกิโลกรัม หนึ่งกิโลกรัม ตามที่ลูกค้าต้องการ แล้วรอการส่งไปยังประเทศที่สาม ซึ่งฝิ่นสุกมีมูลค่าประมาณกิโลกรัมละ 60,000-80,000 บาท ของกลางทั้งหมดนี้มีมูลค่าประมาณ 14 ล้านบาท
หลังจากนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่อายัดพื้นที่โดยรอบ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบทรัพย์สินถ้าเข้าข่ายได้มาโดยมิชอบให้ดำเนินการตามกฎหมาย และเร่งติดตามจับกุมนายประสงค์ เจ้าของบ้านมาสอบสวนพร้อมขยายผลต่อไป
