ตาก/เชียงราย - ตามติดความคืบหน้า 2 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฟส 1 และ 2 ตามนโยบาย คสช. ภาคเอกชนห่วงเขตพัฒนาฯ ตาก “สะดุด” นักลงทุนเริ่มลังเล ชี้วันนี้เขตที่ดินรองรับยังไม่ชัด ขณะที่ภาคเอกชนเมืองพ่อขุนฯ ผนึกกำลังวางกรอบห้าม 4 อุตสาหกรรมลงทุน
วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามนโยบาย คสช.กำหนดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษขึ้นในภาคเหนือ 2 ระยะ ใน 2 แห่ง คือ เขตพัฒนาเศรษฐกิจตาก (แม่สอด-พบพระ-แม่ระมาด) ในเฟสแรก และเขตพัฒนาเศรษฐกิจเชียงราย ในเฟสที่ 2 แต่ล่าสุดขณะนี้การพัฒนาพื้นชายแดนจังหวัดตาก ซึ่งคาดหมายว่า มีความพร้อมมากที่สุดเริ่มส่อเค้าเกิดปัญหาขึ้นแล้ว
นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ นักธุรกิจรายใหญ่ใน อ.แม่สอด จ.ตาก ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดตาก และเป็นอดีตประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า รัฐบาลต้องออกแบบมาเลยว่าพื้นที่ 14,000 ไร่ ที่กำหนดนั้น จัดสรรรองรับการพัฒนาแต่ละภาคส่วนอย่างไร เช่น พื้นที่ SME ใช้พื้นที่กี่ไร่ และพื้นที่นักลงทุนรายใหญ่กี่ราย พื้นที่เท่าไร ภาคบริการสังคมใช้พื้นที่เท่าไร และเขตอุตสาหกรรมใช้เท่าไร รวมทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ
นายบรรพต บอกว่า รัฐบาลในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช. ) ควรเร่งดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ เราต้องมีหลักการชัดเจน ว่า จะเริ่มจากอะไรก่อนหลัง เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจเข้าไปลงทุน เพราะที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ เรื่องพื้นที่รองรับ และโครงสร้างพื้นฐาน จะหาที่ดินรองรับ และบริหารจัดการอย่างไร โครงสร้างพื้นฐานต้องชัดเจน ว่าจะทำอะไรบ้าง ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะไปอยู่ที่ฝั่งเมียวดี ประเทศพม่า หมด เพราะอนาคตเส้นทางแม่สอด-เพื่อนบ้าน จะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจการค้าชายแดนเพิ่มพูนมากขึ้น
ขณะที่ล่าสุดไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ Mr.Jcon jae nan เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ได้นำเจ้าหน้าที่เดินทางมาดูงาน และหารือร่วมกับนายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายสมบรูณ์ ศิริเวช ปลัดจังหวัดตาก นายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด และคณะหัวหน้าส่วนราชการไทย ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก (แม่สอด-พบพระ-แม่ระมาด) ถนนสายเอเชีย อ.แม่สอด จ.ตาก
Mr.Jcon jae nan กล่าวว่า การมา จ.ตาก เพราะเห็นว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อประตูการค้าชายแดนด้านนี้ เพื่อนำข้อมูลเสนอต่อรัฐบาล และนักธุรกิจ นักลงทุนเกาหลีเพื่อพิจารณาเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก (แม่สอด) ต่อไป
ขณะที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจเชียงราย (อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ) ที่อยู่ในแผนพัฒนาระยะที่ 2 นั้น คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงราย ชุดใหม่ นำโดย นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอฯ คนใหม่ ที่เพิ่งแถลงเปิดตัวที่ร้านอาหารท่าน้ำภูแล ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย สุดสัปดาห์นี้ บอกว่า จะตั้ง “ทีมเชียงราย” ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างนักธุรกิจที่มีประสบการณ์กับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน เน้นจัดทำข้อมูล และผลักดันนโยบายต่างๆ ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากอดีตที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าข้าราชการที่เข้ามาบริหารงานในพื้นที่จะถูกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ้นปีงบประมาณ 2558 นี้ จะมีข้าราชการที่เกษียณอายุออกไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ภาคธุรกิจซึ่งยังคงอยู่ที่เดิม จึงต้องมีจุดยืนในแนวทาง และข้อมูลที่จะสามารถสนับสนุนภาครัฐได้อย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2559 ต่อไป
นายอนุรัตน์ กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีเขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาคเอกชนต้องติดตามเป็นพิเศษ ล่าสุด ทางคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) จ.เชียงราย ก็ได้มีการคัดเลือกกิจการที่จะเปิดให้เข้ามาลงทุนในเขตดังกล่าวได้ จำนวน 9 กิจการ จาก 13 กิจการ ได้แก่ อุตสาหกรรมการเกษตรและประมง อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมผลิตเครื่องเรือน อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ การผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ การผลิตยา กิจการลอจิสติกส์ นิคมหรือเขตอุตสาหรรม และกิจการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยว
“เราไม่เลือก 4 กิจการ คือ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และอุตสาหกรรมเซารามิก ซึ่งแตกต่างจากเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเลือกทั้ง 13 กิจการ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องรอผลการขับเคลื่อนและรายละเอียดอื่นๆ จากทางรัฐบาลต่อไป” นายอนุรัตน์ กล่าว
