ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมประชุมหารือกับมุขมนตรีภาคตะนาวศรี พร้อมคณะรัฐมนตรี และภาคเอกชนที่จังหวัดมะริด ถึงการเตรียมความพร้อมเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรอย่างเป็นทางการ 23 พ.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลพม่า ส่งรัฐมนตรีพาณิชย์ และรัฐมนตรีคลังร่วมเปิดจุดผ่อนปรนร่วมกับ รมว.มหาดไทย พร้อมให้ชาวไทยพักค้างคืนได้ 7-14 วัน ในเมืองมะริด ทั้งฝ่ายไทยและพม่า มั่นใจส่งผลดีด้านเศรษฐกิจค้าขายชายแดน และการท่องเที่ยวในอนาคต
วันนี้ (16 พ.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมหน่วยงานทางความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมหอการค้า สภาอุตสาหกรรมประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางร่วมประชุมหารืออย่างเป็นทางการที่โรงแรมแกรนด์เจด จังหวัดมะริด อย่างเป็นทางการ กับนายอูเมียะโกะ มุขมนตรีภาคตะนาวศรี และรัฐมนตรีภาคตะนาวศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดมะริด นายอำเภอ ฝ่ายความมั่นคง พร้อมหอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัดมะริด ภาคตะนาวศรี สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากมีมติคณะรัฐมนตรีในการประชุม ครม.สัญจร ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาเปิดจุดผ่านแดน สำนักงานสภาความมั่นคงเห็นชอบ ให้เปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนาม และประกาศเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร หมู่ 6 บ้านไร่เครา อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรงข้ามบ้านมูด่อง เมืองมะริด ภาคตะนาวศรี สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า
ทำให้มีผลต่อการเดินทางเข้าออกระหว่างบุคคล 2 ประเทศ ทั้งประเทศไทย และสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า 1.โดยให้ใช้หนังสือเดินทาง บัตรผ่านแดน และบัตรผ่านแดนชั่วคราว เป็นเอกสารในการเดินทางเข้าหรือออกไปนอกราชอาณาจักร 2.อนุญาตให้เฉพาะบุคคลสัญชาติไทย และบุคคลสัญชาติพม่า เดินทางเข้าหรืออกไปนอกราชอาณาจักร
3.อนุญาตให้บุคคลสัญชาติพม่า เข้าประเทศไทยได้ถึงอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยให้พำนักครั้งละไม่เกิน 2 วัน (พักค้างได้ 1 คืน) และต้องเดินทางกลับออกไปนอกราชอาณาจักรผ่านทางช่องทางเดิม 3.ห้ามมิให้มีการดำเนินการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศบริเวณด่านสิงขร และให้ยึดถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี 12 ตุลาคม 2542 และมติคณะรัฐมนตรี 10 พฤษภาคม 25548
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากมีประกาศจากกระทรวงมหาดไทย อย่างเป็นทางการแล้วนั้น ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กำหนดจัดให้มีพิธีเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร อย่างเป็นทางการในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ และในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ทางกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดสัมมนาการเปิดประตูการค้าชายแดน การลงทุน และการท่อเที่ยวด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเมืองมะริด และการเชื่อมโยง 2 ฝั่งคาบสมุทรระหว่างทะเลอ่าวไทย กับทะเลอันดามัน และการเสริมสร้างความสามารถทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีหน่วยงานทั้งจากภาครัฐในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค รวมไปถึงภาคเอกชน หอการค้า สภาพอุตสาหกรรม และสื่อมวลชน ที่จะมาร่วมงานสัมมนา และเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร
ด้าน นายอูเมียะ โกะ มุขมนตรีภาคตะนาวศรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่การผลักดันให้มีการเปิดด่านสิงขร ด้านชายแดนของไทย และพม่า บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จะส่งผลต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลพม่า ได้ตอบรับการร่วมพิธีเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร โดยจะมีทางรัฐมนตรีว่าการกระทรงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาร่วมพิธีเปิด กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ของประเทศไทย
ในส่วนของชาวไทยที่จะเดินทางไปยังพม่า ได้กำหนดให้ชาวไทยสามารถเดินทางเข้าไปได้ถึงอำเภอเมืองมะริด และสามารถพักค้างคืนได้ 13 คืน 14 วัน และรถยนต์ของชาวไทยสามารถเข้ามาได้ถึงบ้านมูด่อง หลังจากนั้น สามารถใช้บริการรถตู้ และรถบัสของพม่าที่เตรียมไว้รองรับนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน การขนถ่ายสินค้าก็สามารถดำเนินการได้โดยให้เป็นไปตามกฎหมายของทั้ง 2 ประเทศ
“ผมมีความเชื่อมั่นว่า การเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ในครั้งนี้จะมีประชาชนชาวพม่า เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวที่อำเภอเมืองประจวบฯ เป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ ทางฝั่งไทยอนุญาตให้เข้าพักค้างคืนได้เพียง 1 คืนเท่านั้น จึงอยากฝากให้ทางฝั่งไทยช่วยพิจารณาให้ชาวพม่ามีวันพักค้างคืนมากเพิ่มขึ้น เหมือนกับที่ทางพม่าอนุญาตให้ได้ถึง 13 คืน 14 วัน” นายอูเมียะ กล่าว
ขณะเดียวกัน นายอูลา ทั่น ประธานหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมะริด กล่าวว่า ขณะนี้ด้านศักยภาพด้านการลงทุนในจังหวัดมะริด เริ่มตื่นตัวมากขึ้นทั้งจากการเดินทางเข้ามาศึกษาดูงานของหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ของฝ่ายไทยจากจังหวัดต่างๆ รวมทั้งจากประเทศอื่นๆ จังหวัดมะริด ปัจจุบันมีประชากรกว่า 5 แสนคน ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม โรงพยาบาลเอกขน โรงแรม และสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้าง ท่าเทียบเรือขนถ่ายผู้โดยสารและการท่องเที่ยวจากจังหวัดมะริด ไปยังเกาะสอง และทวาย ตลอดจนตะนาวศรี ซึ่งเส้นทางการคมนาคมในส่วนจากจังหวัดมะริด-ตะนาวศรี ซึ่งมีการปรับปรุงเส้นทางโดยรัฐบาลพม่า มีการขยายถนนความกว้างประมาณ 8-12 เมตร และบางช่วงเริ่มมีการราดยางไปบางส่วนแล้ว
ส่วนตั้งแต่ตะนาวศรี-บ้านมูด่องนั้น อยู่ระหว่างปรับปรุงขยายเส้นทางมีความกว้างขนาด 8-12 เมตรเช่นกัน แต่ยังความเป็นถนนบนอัดแบบลูกรัง ในปัจจุบันนี้ มีทั้งรถบัสปรับอากาศ และรถตู้ปรับอากาศที่เปิดให้บริการวิ่งจากจังหวัดมะริด-ตะนาวศรี-บ้านมูด่อง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวในตะนาวศรีนั้น จะเป็นในเรื่องของศาลหลักเมือง วัดเก่าแก่ และบริเวณสะพานเหล็กข้ามแม่น้ำตะนาวศรี
สำหรับในจังหวัดมะริด มีทั้งทั้งวัดเก่าแก่เป็นจำนวนมาก บางวัดมีเจดีย์ พระพุทธรูปอายุเก่าแก่กว่า 600 ปีก็มี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยได้อย่างดี ส่วนในด้านเศรษฐกิจเมืองมะริด ถือเป็นเมืองท่าอุตสาหกรรมสัตว์น้ำขนาดใหญ่ มีสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ มีอุตสาหกรรมต่อเรือขนาดใหญ่ เชื่อมั่นว่า หลังเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรอย่างเป็นทางการของฝั่งไทย ไปแล้วจะส่งผลต่อการค้าการลงทุนของทั้งฝั่งไทย และพม่าตามมาอย่างแน่นอน
ด้านนายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การเดินทางไปร่วมประชุมกับทางหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่จังหวัดมะริด ครั้งนี้ต้องยอมรับว่า เรื่องเส้นทางการเดินทางจากบ้านมูด่อง-ตะนาวศรี-มะริด การเดินทางใช้เวลาเดิมจาก 8 ชั่วโมง แต่ขณะนี้เหลือเพียงประมาณ 5 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ติดขัดบางช่วงยังเป็นถนนลูกรังอยู่ และสิ่งสำคัญที่หารือกัน พม่าอนุญาตให้ชาวไทยเข้าไปพักค้างคืนได้หลายวัน
“เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งหลังเดด่านอย่างเป็นทางการแล้วทางในส่วนของด่านฝั่งไทย ในส่วนของภาครัฐก็มีแผนที่จะปรับปรุงพัฒนาบริเวณด่านสิงขร ทั้งอาคารที่จอดขนถ่ายสินค้า ระบบสาธารณูปโภค ที่จอดรถ อาคารส่วนราชการ การปรับปรุงผิวการจราจร ฯลฯ ส่วนนักลงทุนคาดว่าส่วนหนึ่งก็คงอยู่ระหว่างศึกษาทั้งข้อกฎหมายนำเข้าส่งออก และการพิจารณาว่าสามารถที่จะลงทุนอะไรได้บ้าง ซึ่งในส่วนนี้ในวันที่มีการสัมมนาการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ที่จะมีขึ้นก่อนพิธีเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร และจะมีคณะวิทยากรที่มีความรู้มาให้รายละเอียด รวมทั้งฝ่ายของพม่าด้วย” นายศุรอัฐ กล่าว
นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา กรรมการผู้จัดการโรงแรมหาดทอง อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวด้วยว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ไม่ใช่ด่านถาวรก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ร่วมกันผลักดันมาตลอดหลายปี วันนี้คงต้องยอมรับว่าหลังจากนี้ไปแล้วสิ่งที่จะส่งผลชัดเจนต่ออำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ก็คงไม่พ้นด้านการท่องเที่ยว เพราะรัฐได้อนุญาตให้ชาวพม่าเข้ามาได้ถึงตัวอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จากเดิมที่ผ่านมา ได้เพียงบริเวณบ้านไร่เคราด่านสิงขร และขณะนี้สามารถพักค้างคืนได้ 1 คืน
“จุดนี้นอกจากที่เราได้ชาวต่างชาติเข้ามาพักในตัวเมืองประจวบฯ ต่อไปก็ได้ชาวพม่าเข้ามาพักด้วยเช่นกัน ก็จะส่งผลให้การท่องเที่ยวในพื้นที่”
นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนลู่ทางการลงทุนทำการค้าในจังหวัดมะริด คิดว่านักธุรกิจ หรือผู้ที่จะลงทุนก็คงต้องดูความเป็นไปได้ จุดสำคัญที่น่าจับตามองคือ เส้นทางถนนจากบ้านมูด่อง-ตะนาวศรี-มะริด ประมาณ 180-200 กม. หากมีการราดยาง และเสร็จสิ้นเชื่อว่าจะตอบโจทย์ด้านการค้า การลงทุนได้อย่างแน่นอน แต่หากจุดนี้ยังไม่มีความชัดเจนในส่วนการลงทุน และการค้า คงจะชะลอเพราะอย่าลืมไปว่า ในช่วงฤดูฝนหากเป็นเส้นทางลูกรังย่อมต้องเกิดปัญหา ดังนั้น เรื่องการคมนาคมเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตามองอยู่ในขณะนี้
นางมัทนี มีเวที เจ้าของร้านเครื่องประดับ สิงขร จิวเวลรี กล่าวยอมรับว่า กระแสเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ที่เผยแพร่ออกไปส่งผลดีต่อการค้าขายในตลาดค้าชายแดนที่ด่านสิงขร เป็นอย่างมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเลือกซื้อทั้งเครื่องประดับ หินสี ทับทิม ฯลฯ รวมไปถึงกล้วยไม้จากฝั่งพม่า และเฟอร์นิเจอร์ สิ่งสำคัญเริ่มมีนักธุรกิจที่มาสอบถามเรื่องของการลงทุนในบริเวณด่านสิงขร ตนเองขายของอยู่ที่มานานกว่า 10 ปี มั่นใจว่าอนาคตหากทั้งชาวพม่า และชาวไทย เข้าออกชายแดนด่านสิงขรจุดนี้ได้ ย่อมส่งผลดีต่อการทำธุรกิจค้าขายอย่างแน่นอน
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่มาลงทุนสร้างโรงแรม และสร้างศูนย์การค้าในอำเภอหัวหิน มองว่า การเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ถือเป็นข่าวดีที่กำลังจะมีขึ้น ยอมรับว่าจะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมไปถึงในอนาคตในเรื่องการเปิดประชาคมอาเซียน
“ผมมองว่ายังไงก็เป็นผลดีในแง่ของการค้าขายชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเท่าที่ทราบปัจจุบันบริเวณด่านสิงขร มีปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางมาเลือกซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น”
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกครั้งถึงความพร้อมในการเตรียมจัดทำหนังสือผ่านแดนว่า ถือว่ามีความพร้อม ซึ่งในวันที่ 22 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ สามารถเดินทางไปทำได้ที่บริเวณด่านสิงขร อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
สำหรับผู้ที่จะต้องการข้ามแดนในวันที่ 23 พฤษภาคม ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองมะริด ซึ่งจะมีการตัดกาตรพระภิกษุสงฆ์ 2 แผ่นดิน ซึ่งจะเป็นภาพบรรยากาศที่สวยงาม รวมทั้งหลังจากมีการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรแล้ว ก็จะปล่อยขบวนสินค้า และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปจังหวัดมะริด และกลุ่มชาวพม่าที่เดินทางเข้ามเที่ยวฝั่งไทย
วันนี้ข่าวการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร และการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวข้ามไปสู่เมืองตะนาวศรี-เมืองมะริด ในระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคมนี้ โดยที่ทำการปกครองเป็นเจ้าภาพที่มีการขายแพกเก็จทัวร์ในราคา 3,000 บาท 1 คืน 2 วัน รวมทั้งค่าอาหารค่ารถ ค่าที่พัก และรับเพียง 200 ท่านเท่านั้น ถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้ที่อยากไปเยือนจังหวัดมะริด ผ่านทางด่านสิงขรออกไปเพราะต้องกล่าวว่า จังหวัดมะริด ที่ผ่านมาในอดีตอาจจะไม่มีใครรู้จักมากนัก แต่กระนั้นก็ตามศักยภาพในการรองรับนักเดินทางจากชาวไทยที่จะไปเยือนจังหวัดมะริด ในการรองรับทั้งด้านโรงแรม ร้านอาหาร จะเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องภาษา
“วันนี้ความต้องการ และกระแสการเดินทางของชาวไทยที่ต้องการไปดูประเทศเพื่อนบ้านอย่างจังหวัดมะริดว่า เมืองเขามีอะไรน่าสนใจบ้าง สิ่งเหล่านี้เองที่นับจากการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2558 ผ่านไปแล้ว คงจะได้เห็นความคึกคักของทั้งชาวพม่าที่อยากมาเที่ยวอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และชาวไทย หรือพี่น้องคนประจวบคีรีขันธ์ ที่อยากไปดูเมืองตะนาวศรี และเมืองมะริด ทั้งในแง่การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง”
