ลำปาง - มูลนิธิเพื่อนช้างลำปาง ตัดสินใจทำการุณยฆาต “พังแก้วคำ” ช้างวัย 47 ปี หลังติดเชื้อบาดทะยักชนิดรุนแรง เจ้าของนำเข้ารักษานานเกือบ 6 เดือน สุดท้ายอาการทรุดหนัก พร้อมประกอบพิธีปัดผี ปัดพลายช้าง
วันนี้ (8 พ.ค.) น.ส.โซไรดา ซาวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง และผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลช้างแห่งแรกของโลก พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้าง ได้ร่วมกันประกอบพิธีส่งวิญญาณของช้างพังแก้วคำ อายุ 47 ปี แบบล้านนา โดยมีนายบุญยัง บุญเทียม ที่ได้ชื่อเป็นหมอช้างล้านนามาทำพิธีปัดผี ปัดพลายช้างที่จะทำเมื่อช้างล้มหรือเสียชีวิตตามความเชื่อทางล้านนา เป็นการขอขมาและส่งช้างไปสู่สุคติ และเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะช้างถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่และเป็นสัตว์ใหญ่คู่บ้านคู่เมือง
สำหรับช้างพังแก้วคำ อายุ 47 ปี ที่เสียชีวิตลงเชือกนี้ เจ้าของจากปางช้างแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ได้นำตัวมารักษาเดิมเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 57 เนื่องจากช้างมีอาการไม่สบาย เอาหัวพิงเสาเป็นระยะ ทรงตัวไม่อยู่ งวงหย่อน แต่ยังกินอาหารได้ ขับถ่ายปกติ ทางสัตวแพทย์ได้ให้สารน้ำ สารอาหาร วิตามินบำรุงร่างกาย บำรุงระบบประสาท ยาปฏิชีวนะ ผงถ่านช่วยขับพิษ ใส่สายประคองช้างไว้กับโครงเหล็ก
จนกระทั่งเมื่อเดือนมกราคม 58 ทางสัตวแพทย์ได้ปลดรอกออก ช้างสามารถยืนทรงตัวได้ ไม่มีทีท่าจะล้ม เพียงแต่ยังคงใช้หัวพิงเสาเป็นบางครั้ง จนกระทั่งวานนี้ (7 พ.ค.) พังแก้วคำมีอาการไม่ดี ร่างกายหมดแรงและล้มลงไม่ยอมลุกขึ้นอีก แม้จะพยายามใช้เครนพยุงตัวให้ลุกขึ้น แต่พังแก้วคำก็ไม่ยอมลุก จากนั้นทางคณะสัตวแพทย์ได้มีการประชุมและแจ้งอาการให้เจ้าของช้างทราบ ทุกคนเห็นพ้องให้ทำการการุณยฆาตพังแก้วคำ เนื่องจากประสาทส่วนกลางถูกทำลาย ขาหลังทั้งสองไม่ทำงาน ไม่สามารถยืนได้แล้ว เพราะถูกเชื้อบาดทะยักชนิดรุนแรง Clostridium perfringens เข้าไปทำให้ระบบประสาทของช้างค่อยๆ อ่อนแรงลงจนทำให้ร่างกายอ่อนแรงตาม แม้ทางคณะสัตวแพทย์จะช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาก็ตาม
นายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง จ.ลำปาง กล่าวว่า โรคดังกล่าวนับเป็นโรคที่น่ากลัวและร้ายแรงต่อช้างไทยอย่างมาก ตั้งแต่ปี 51-58 มีช้างเดินทางมารักษาและเสียชีวิตด้วยเชื้อบาดทะยักชนิดนี้ รวมพังแก้วคำ 5 เชือก ถือว่าเป็นโรคร้ายแรงที่จะคร่าชีวิตช้างไทยลงได้อย่างต่อเนื่อง หากเจ้าของช้างและปางช้างไม่ดูแลและให้ความสำคัญ
ดังนั้นจึงอยากฝากถึงเจ้าของช้างให้มั่นดูแลเอาใจใส่เรื่องความสะอาดทั้งบริเวณที่อยู่ของช้าง เพราะเชื้อโรคจะอยู่ในดิน และเรื่องอาหารของช้าง คือ หญ้า หากแหล่งอาหารไม่สะอาด หญ้าก็จะไม่สะอาด และเมื่อช้างกินหญ้าเหล่านี้เข้าไปก็จะเอาเชื้อเข้าสู่ร่างกายและสะสม เมื่อปริมาณมากช้างก็จะเริ่มป่วยและเริ่มออกอาการ คือ การเดินวนไปมา เอาหัวช้างพิงกับเสาหลักมัดอยู่ตลอดเวลา เพราะเชื้อได้เริ่มเข้าไปทำลายระบบประสาท สุดท้ายช้างก็จะลุกไม่ขึ้น
ทั้งนี้ หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการฝังพังแก้วคำในสุสานภายในมูลนิธิเพื่อนช้าง