ศาลยุโรปเปิดฉากไต่สวนคดี “การุณยฆาต” ผู้ป่วยอัมพาตฝรั่งเศส หลังหมอ-เมีย-แม่เห็นไม่ตรงกัน

เอเอฟพี - วันนี้ (7 ม.ค.) ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปได้เริ่มต้นนัดไต่สวนเพื่อตัดสินว่า ควรถอดเครื่องยื้อชีวิตชายคนหนึ่งที่กำลังนอนนิ่งเป็นผักหรือไม่ ในขณะที่คดีนี้กำลังสร้างความแตกแยกให้แก่ครอบครัวของผู้ป่วย และจุดชนวนให้เกิดการถกเถียงในประเด็น “การุณยฆาต” อย่างดุเดือดขึ้นในสังคมฝรั่งเศส

แวงซองต์ ลองแบรต์ ชายวัย 38 ปีซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สมอง และกลายเป็นอัมพาตแขนขา หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปี 2008 ได้กลายเป็นชนวนเหตุของการยื้อยุดต่อสู้ในชั้นศาล เพื่อเรียกร้องสิทธิในการทำการุณยฆาตนานหลายเดือน

แม้ว่ากระบวนการต่อสู้ในชั้นศาลของฝรั่งเศสได้สิ้นสุดลงไปแล้ว แต่พ่อแม่ของลองแบรต์ ก็ยังเฝ้าหวังว่า กฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของยุโรปจะช่วยให้ความกระจ่างว่า ลูกชายของเขาควรมีชีวิตอยู่ต่อไป หรือควรถูกปล่อยให้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ

การต่อสู้ทางกฎหมายครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ปีที่แล้ว เมื่อแพทย์ของลองแบรต์ ตัดสินใจตัดสายยางส่งอาหารและน้ำ ซึ่งเป็นเครื่องต่อชีวิตของเขา โดยผ่านความเห็นชอบจากภรรยา และพี่น้อง 6 ใน 8 คนของผู้ป่วย ตลอดจนเป็นการปฏิบัติที่สอดคล้องกับหลักกฎหมายการุณยฆาตเชิงรับปี 2005 ของฝรั่งเศส ซึ่งอนุญาตให้ระงับการรักษา เพื่อปล่อยให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ

ราเชล ภรรยาวัย 33 ปีของเขา ซึ่งมีอาชีพเป็นพยาบาลจิตเวชเช่นเดียวกันกับลองแบรต์ บอกว่า สามีของเธอไม่มีวันต้องการมีชีวิตอยู่แบบตายทั้งเป็น ขณะที่แพทย์ของชายชาวฝรั่งเศสผู้นี้ก็ลงความเห็นว่า คนไข้ของพวกเขากำลังตกอยู่ในสภาพ “ทุกข์ทรมาน”

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ และรวมทั้งน้องชาย และน้องสาวต่างพ่อของลองแบรต์ ซึ่งเป็นชาวคริสต์คาทอลิกที่เคร่งครัดในศาสนา ก็สามารถร้องศาลยุโรปให้ยับยั้งแผนการุณยฆาตได้สำเร็จ

ในช่วงที่มีการยื่นอุทธรณ์ ศาลฎีกาฝรั่งเศสได้สั่งให้แพทย์ 3 คนเขียนรายงานบรรยายอาการของลองแบรต์ จนกระทั่งเมื่อเดือนมิถุนายน ศาลได้พิพากษาว่า การตัดสินใจระงับการรักษาชายที่ไม่มีวันหายจากอาการป่วยผู้นี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

ในเวลานั้น พ่อแม่ของ ลองแบรต์ ได้ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป (ECHR) ในเมืองสตราสบูร์ก ซึ่งมีคำสั่งให้แดนน้ำหอมยื้อชีวิตลองแบรต์ ไว้ก่อน ในช่วงที่ศาลแห่งนี้กำลังพิจารณาว่า ศาลฝรั่งเศสตัดสินคดีนี้ตรงตามหลักอนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานหรือไม่

เมื่อคืนวานนี้ (6) วิเวียน ลองแบรต์ แม่ของคนไข้กล่าวกับเอเอฟพี ขณะเดินทางไปถึงเมืองสตราสบูร์กว่า “ดิฉันหวังว่า ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปจะสามารถหยุดยั้งเรื่องบ้าๆ นี้ได้ แวงซองต์ไม่ได้กำลังใกล้ตาย เขาแค่พิการเฉยๆ”

ฌ็อง ไปโยต์ ทนายความของพ่อแม่ลองแบรต์ชี้ว่า คนไข้จะมีอาการ “ดีขึ้นหากเขาได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้”

เขาจะโต้แย้งในศาลสตราสบูร์กว่า การหยุดให้อาหารทางสายยางนั้นเป็นการละเมิดสิทธิในการมีชีวิตอยู่ของลองแบรต์อย่าง “ไร้มนุษยธรรมและเสื่อมทราม”

ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายว่า ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปจะใช้เวลานานถึง 2 เดือนในการตัดสินคดีนี้ ซึ่งกระตุ้นให้ฝ่ายผู้สนับสนุน และฝ่ายต่อต้านการุณยฆาตทุ่มเถียงกันอย่างดุเดือด

ทั้งนี้ การุณยฆาตยังถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในฝรั่งเศส แต่ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลองด์ ได้ให้คำมั่นในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2012 ว่าเขาจะทบทวนประเด็นนี้ดูอีกครั้ง

เมื่อเดือนธันวาคม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอร่างกฎหมายเพื่ออนุญาตให้แพทย์วางยาสลบผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้หลับลึก จนเสียชีวิตไปในที่สุด

อย่างไรก็ตาม บรรดาฝ่ายวิจารณ์ได้ประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่า เป็นการอ้างว่าต้องการทำให้คนไข้สงบ เพื่อบังหน้าการุณยฆาต ขณะที่ฝ่ายผู้สนับสนุนการการุณยฆาตก็แสดงความผิดหวังที่ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวไม่แตะต้องประเด็นการช่วยเหลือคนไข้ฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่อนุญาตให้แพทย์ใช้สสารเพื่อเร่งให้ผู้ป่วยเสียชีวิต โดยเปิดโอกาสให้คนไข้ได้สั่งเสียก่อนตาย

ทั้งนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแดนน้ำหอมมีกำหนดอภิปรายกันถึงประเด็นดังกล่าวในเดือนนี้