บีบีซี - วาฬนำร่อง 36 ตัวจากฝูงวาฬจำนวนมากที่เกยตื้นอ่าวตะวันออกของเมืองเพลนตีในนิวซีแลนด์ สิ้นลมหายใจแล้วในวันพุธ(5พ.ย.) แม้มีความพยายามช่วยเหลือจากเหล่านักอนุรักษ์ แต่ก็มิอาจช่วยชีวิตฝูงวาฬไว้ได้ทั้งหมด
วาฬ 2 ฝูงว่ายขึ้นมาเกยตื้นบริเวณอ่าวโอฮีวาชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่เมื่อวันจันทร์(3พ.ย.) และเหล่านักอนุรักษ์ได้ปฏิบัติการกู้ภัยตั้งแต่นั้น ก่อนจะสามารถช่วยเหลือฝูงหนึ่งให้กลับไปลอยน้ำอีกครั้งในวันอังคาร(4พ.ย.) ขณะที่ในวันพุธ(5พ.ย.) ก็ประสบความสำเร็จพาพวกมันออกสู่ทะเลอีก 21 ตัว อย่างไรก็ตามมีถึง 36 ตัวที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้
จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเกยตื้นหมู่ของฝูงวาฬครั้งนี้ แต่พฤติกรรมเกยตื้นมักเกิดขึ้นกับฝูงวาฬนำร่องอยู่เสมอ โดยเหตุเกยตื้นของวาฬนำร่องครั้งมหาศาลที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา เกิดขึ้นที่หมู่เกาะแชทัม เมื่อปี 1918 คราวนั้นมีวาฬนำร่องเกยตื้นราว 1,000 ตัวเลยทีเดียว
สำนักงานอนุรักษ์ (ดีโอซี) เปิดเผยต่อว่า เจ้าหน้าที่ทำการุณยฆาตวาฬไป 11 ตัวในวันอังคาร (4 พ.ย.) และวาฬอีก 25 ตัวตายเองในตอนเช้าวันพุธ (5 พ.ย.) ขณะที่ สตีฟ ไบรท์เวลล์ จากดีโอซีกล่าวว่าวาฬเหล่านี้หลงเข้ามาในอ่าวโอฮีวา หลังวาฬตัวหนึ่งในฝูงอาการไม่ดีและกระเสือกกระสนขึ้นมาเกยตื้นชายหาด
ดาเรน โกรเวอร์ ผู้จัดการทั่วไปของโปรเจกต์ โจนาห์ บอกกับบีบีซีว่านิวซีแลนด์ มีค่าเฉลี่ยพบวาฬเกยตื้นมากกว่าที่ใดในโลก “มันเป็นบางอย่างที่เราต้องยอมรับความจริงและจำเป็นต้องยกระดับมาตรการตอบสนอง วันนี้มีความพยายามใหญ่หลวง หลายตัวรอดชีวิตและได้รับความช่วยเหลือกลับสู่ทะเล”
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เหตุที่วาฬตัวใดตัวหนึ่งว่ายขึ้นมาเกยตื้นอาจเพราะมันป่วยเป็นโรคและขึ้นฝั่งเพื่อจบชีวิตตนเอง แต่สำหรับการตายหมู่นั้น ก่อข้อสันนิษฐานต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงพฤติกรรมความเป็นสัตว์สังคมอย่างสูงของพวกมัน และหนึ่งในทฤษฎีความเป็นไปได้คือเมื่อวาฬตัวหนึ่งเกยตื้น สมาชิกตัวอื่นๆ ของฝูงก็พยายามช่วยเหลือและทำตัวเองเกยตื้นตามไปด้วย
