อบต.นาเชือกตั้ง “ศูนย์อินทรีย์ทรง” มุ่งส่งเสริมเกษตรอินทรีย์

กาฬสินธุ์ - อบต.นาเชือก อ.ยางตลาด เปิดศูนย์อินทรีย์ทรง มุ่งส่งเสริมทำเกษตรอินทรีย์ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ลดใช้เคมีภัณฑ์ ทั้งใช้วิธีแลกเปลี่ยน ไม่ใช้เงินตราซื้อขายสินค้าเกษตรในชุมชน หวังลดต้นทุน พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

วันนี้ (6 พ.ค.) ที่ศูนย์อินทรีย์ทรง ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายทรงศักดิ์ ภูขามคม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาเชือก เป็นประธานเปิดศูนย์อินทรีย์ทรง ให้ชาวบ้านนำพันธุ์สัตว์และพันธุ์พืชมาแลกเปลี่ยนเพื่อต่อยอดทำการเกษตร ตามหลักการเป็นจุดศูนย์กลางการสาธิตวิถีชีวิตเกษตรดั้งเดิมของ อบต.นาเชือก ที่มีทั้งเลี้ยงสัตว์และทำเกษตรอินทรีย์ โดยชาวบ้านสามารถนำเอาพันธุ์สัตว์เลี้ยงและพันธุ์พืชเศรษฐกิจหายากมาแลกเปลี่ยนที่ศูนย์ โดยไม่ต้องใช้เงินนำเอาสินค้ามาแลกเปลี่ยนกัน ขณะที่อาหารสัตว์ก็ทำเองไม่ซื้อจากท้องตลาด

นายทรงศักดิ์กล่าวว่า ศูนย์อินทรีย์ทรงจะส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาทำเกษตรแบบดั้งเดิม ไม่ใช้สารเคมี เพื่อลดต้นทุนผลิต ทั้งริเริ่มขยายพันธุ์พืชและสัตว์ ให้ชาวบ้านนำไปเลี้ยงยังชีพและต่อยอดขยายพันธุ์ มีการสอนและอบรมการเลี้ยงอย่างถูกต้องตามกระบวนการของนักวิชาการ รวมถึงทำอาหารสัตว์เอง ช่วยลดต้นทุนได้มากกว่าครึ่ง เงื่อนไขคือ แลกเปลี่ยนสินค้ามากกว่าซื้อขาย ซึ่งชาวบ้านตอบรับเป็นอย่างดี เช่น ห่านมาแลกกับพันธุ์ไก่พื้นเมือง เป็ดมาแลกกับพันธุ์ไก่ดำภูพาน เป็นต้น

จากการส่งเสริมให้ชาวบ้านทำเกษตรและเลี้ยงสัตว์ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ชาวบ้านหลายครอบครัวแก้ปัญหาหนี้สินได้ในระยะเวลาเพียง 2 ปี เช่นครอบครัวของนางสุภี และนายนุกูล สียาฤทธิ์ ที่ยึดอาชีพเลี้ยงสุกร เป็นหนี้สะสมมาหลายสิบปี แต่ขณะนี้สามารถใช้หนี้แล้ว

ด้านนางสุมาลี แก่นนาคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านแสนสำราญ ต.นาเชือก กล่าวว่า บ้านสำราญหมู่ 4 เลือกการเพาะเลี้ยงพันธุ์ไก่ดำภูพาน เพราะมีราคาสูงเลี้ยงง่ายทนต่อโรค เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งไก่เนื้อและพันธุ์ไก่ โดยราคาไก่ดำภูพานขายที่กิโลกรัมละ 180 บาท ขณะที่ลูกไก่อายุ 3 อาทิตย์ ขายตัวละ 200 บาท แม่พันธุ์ไก่คู่ละ 1,500 บาท มีสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มเลี้ยงไก่ดำภูพาน 160 ครัวเรือน