นครปฐม - ป้ายคัดค้านย้าย “พิพิธภัณฑ์คู่เมืองนครปฐม” ไปอู่ทอง เมืองสุพรรณบุรี เริ่มผุดเป็นดอกเห็ดทั้งบริเวณโดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ และต่างอำเภอ “ไชยา สะสมทรัพย์” ร่วมลงชื่อคัดค้านอีกราย ขณะที่กลุ่ม “รักปฐมนคร” นัดรวมพลเข้ายื่นหนังสือผู้ว่าฯ นครปฐม เพื่อส่งต่อไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และรัฐบาล คสช.เพื่อแสดงพลังคัดค้านพรุ่งนี้
วันนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณลานจอดรถพระศิลาขาว องค์พระปฐมเจดีย์ ติดกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ที่กำลังเป็นกระแสวิจารณ์ไปทั่ว และเป็น 1 ใน 9 พิพิธภัณฑ์ ที่กรมศิลปากรจะมีการยุบตามนโยบายของอธิบดีกรมศิลปากร โดยในส่วนของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินั้น จะถูกยุบไปอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีวัตถุโบราณ 1,873 รายการ ซึ่งถูกขุดพบที่จังหวัดนครปฐม จะถูกนำไปจัดแสดงยังสถานที่แห่งใหม่ ท่ามกลางกระแสคัดค้านของคนในจังหวัดปฐมเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด ที่บริเวณดังกล่าว ตั้งแต่ช่วงสายประชาชนที่ได้ทราบข่าวได้เดินทางเข้าทางเข้ามาร่วมลงชื่อคัดค้านอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ร่วมซื้อเสื้อที่มีข้อความระบุว่า “นครปฐม ไม่ยุบ! ไม่ย้าย! พิพิธภัณฑ์” ขณะที่บริเวณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ได้มีการขึ้นป้ายแสดงการคัดค้านทั้ง 4 ทิศเป็นแนวยาว ทำให้ประชาชนที่เดินทางมาท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจ และหลายคนที่ได้ทราบข่าวได้มาร่วมลงชื่อในการคัดค้านเรื่องนี้ด้วย
โดยในช่วงสายวันนี้ นายไชยา สะสมทรัพย์ นักการเมืองหมายเลข 1 ของจังหวัดนคปฐม อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ได้เดินทางมาร่วมลงชื่อคัดค้านการย้ายพิพิธภัณฑ์อีก 1 ราย ทำให้ขณะนี้ในจังหวัดนครปฐม ได้มีการขับเคลื่อนในเรื่องนี้อย่างชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึง น.ส.สารี อ๋องสมหวัง สมาชิก สปช. นายยุทธ โตอดิเทพ อดีตนายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มประชาชน และภาคส่วนต่างๆ เดินหน้ามาลงชื่อคัดค้านอย่างเต็มตัวด้วย
นายสมชาย รัตนอารี ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครปฐม กล่าวว่า วันนี้มีประชาชนเดินทางมาร่วมลงชื่อย่างต่อเนื่อง ทุกคนบอกว่าเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ และในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.) เวลา 09.00 น. คณะขับเคลื่อนนำโดย นายแพทย์คงเดช ลีโทชวลิต ประธานกลุ่ม “รักปฐมนคร” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้เริ่มเดินหน้าในการขับเคลื่อนในครั้งนี้ จะนำทีมนำหนังสือเข้ายื่นต่อนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อส่งต่อไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รัฐบาล และ คสช.ได้ทราบถึงปัญหา และและข้อคัดค้านที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครปฐม
ด้านนายไพบูลย์ พวงสำลี ประธานกลุ่มศรีทวารวดี ทนายความด้านการอนุรักษ์โบราณคดีจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ในนี้ในส่วนของตัวเองได้นำรถติดป้ายเพื่อกระจายเสียงให้ความรู้ประวัติ และความสำคัญทางโบราณวัตถุ และโบราณสถานของจังหวัดนครปฐม ว่า มีความสำคัญอย่างไร และประชาชนควรจะต้องพิทักษ์ปกป้องของที่อยู่ในจังหวัดทุกชิ้นให้อยู่คู่เมืองต่อไป และยอมไม่ได้ที่จะให้มีการออกจากพื้นที่แม้แต่เพียงชิ้นเดียว ซึ่งคนในจังหวัดนครปฐม ก็มีความตื่นตัวในเรื่องนี้ และจะมีการให้ความรู้ในเรื่องนี้ต่อไปให้ชัดเจนมากขึ้นควบคู่กับการเปิดให้มีการลงชื่อคัดค้านเช่นทุกวันที่มีกิจกรรม
“พระราชดำรัสในการเสด็จพระราชดำเนินเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันอังคารที่ 21 ธันวาคม 2504 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่อนหนึ่งมีว่า “...ข้าพเจ้าได้ยินมานานแล้วว่า โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุของท้องถิ่นใดก็ควรจะเก็บรักษาและตั้งแสดงไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ของจังหวัดนั้นๆ” ย่อมแสดงให้เห็นว่า ศิลปวัตถุทุกชิ้นนมีความสำคัญ และมีค่าต่อท้องถิ่นนั้น และควรเก็บรักษาไว้ในพื้นที่ และกรมศิลปากร มีอำนาจบทบาทที่จะต้องดูแลสิ่งเหล่านี้ให้ดีที่สุด แต่หากอ้างไม่มีงบประมาณก็ต้องมาถามท้องถิ่นว่าจะมีแนวการดำเนินการร่วมกันว่าอย่างไร ไม่ใช่มัดมือชกแบบนี้ และจากที่ทำงานมานานในพื้นที่ก็มีคำถามต่อกรมศิลปากรหลายคำถาม ซึ่งจะมีการว่าในเรื่องถัดไปหลังเรื่องนี้ และคนนครปฐมก็ควรจะได้แสดงออกในความคิดของตัวเองด้วย ไม่ใช่นำอำนาจที่มาดำเนินการแบบนี้ เปรียบเหมือนโจรมาบุกบ้านปล้นของๆ เรา” นายไพบูลย์ กล่าว
สำหรับบรรยากาศในเขตอำเภอนครชัยศรี ได้มีนักเรียนจากโรงเรียนภัทรญาณ ได้นำเอกสารให้คนนครชัยศรี ได้ลงชื่อคัดค้านตามจุดต่างๆ และเตรียมเดินแจกใบปลิวรณรงค์ให้ข้อมูลแก่ประชาชนให้ทราบข้อเท็จจริงมากขึ้น ส่วนที่อำเภอสามพราน ดร.สมเกียรติ พิณทอง ประธานสภาวัฒนธรรม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำป้ายคัดค้านไปติดยังจุดต่างๆ รวมถึงริมถนนเพชรเกษม เพื่อแสดงจุดยืนในเขตอำเภอสามพรานจำนวนหลายจุด เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลแล้ว
ส่วนทุกอำเภอในจังหวัดนครปฐม จะได้ให้มีการลงชื่อคัดค้าน ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ก่อนกลุ่ม “รักปฐมนคร” จะมีการรวมพลังครั้งใหญ่ ในวันที่ 22 พ.ค. ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเข้ามาร่วมในวันดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม จะให้มีการร่วมลงชื่อในวันที่ 11 พ.ค. นี้ คาดว่าจะมีผู้นำท้องถิ่นเข้ามาร่วมจำนวนมากเช่นกัน