ว่าที่ ผอ.ใหม่ ร.ร.เหนือรุมค้านเลขาฯ กพฐ.รื้อผลสอบแต่งตั้ง ชี้ทำคนสอบผ่านเสียสิทธิ์

เชียงราย - ว่าที่ ผอ.สถานศึกษาจาก 22 เขตพื้นที่การศึกษาทั่วภาคเหนือกว่า 150 คนรุมค้านเลขาฯ กพฐ.ประมวลผลคะแนน-เรียงลำดับคนสอบเป็นผู้อำนวยการใหม่ หลังพบผลตรวจคะแนนผิดพลาด ชี้ทำคนสอบผ่าน-อบรม ดูงานตามโปรแกรมเสียสิทธิ์

วันนี้ (30 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานร่วมกับสถาบันพัฒนาครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดการจัดอบรมผู้ผ่านการพัฒนาตามหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา รุ่นที่ 34/2546 ตั้งแต่ 23-30 เม.ย. ที่ห้องประชุมโรงแรมริมกกรีสอร์ท อ.เมืองเชียงราย โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรมจำนวน 156 คนจากพื้นที่การศึกษาจำนวน 22 เขตทั่วภาคเหนือ

หลังเสร็จสิ้นการอบรม นายธเนษฐ์ ธรรมตา ประธานรุ่นฯ ได้อ่านแถลงการณ์ก่อนส่งไปถึงเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ว่า ไม่เห็นด้วยที่ สพฐ.จะมีการประมวลผลคะแนนและจัดเรียงลำดับผู้เข้าสอบเป็นผู้อำนวยการใหม่ ซึ่งจะมีการประกาศผลใหม่ในวันที่ 8 พ.ค.นี้

นายธเนษฐ์กล่าวว่า จากการที่ ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่าจะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องการคัดเลือกบุคคลบรรจุแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา และรองผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยจะให้ประมวลผลคะแนนและจัดเรียงลำดับคะแนนผู้สอบแข่งขันใหม่นั้น พวกตนเห็นว่าจะกระทบต่อสิทธิการเข้าสู่ตำแหน่งจึงได้หารือกันและมีมติขอให้ยกเลิกการชะลอการบรรจุแต่งตั้ง และให้ประกาศแต่งตั้งภายในวันที่ 6 พ.ค.ตามเดิม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเรียนการสอนปีการศึกษา 2558 ที่กำลังจะเปิดเทอม

นายธเนษฐ์กล่าวอีกว่า หากมีการประมวลผลคะแนนกันใหม่จะกระทบต่อลำดับบัญชีของผู้ที่ผ่านการสอบทั่วประเทศจำนวน 3,375 คน จนทำให้เกิดความยุ่งยากและทำให้เกิดการเสียสิทธิ สิ่งสำคัญคือขอให้มีการคุ้มครองสิทธิผู้ผ่านการพัฒนาก่อนบรรจุแต่งตั้งในครั้งนี้ด้วย

“หากแถลงการณ์ยังไม่ได้ผลพวกเราก็จะเดินทางไปขอร้องกันที่ กพฐ.ต่อไป”

ด้านนายจักรพันธ์ ภาชนา ตัวแทนของผู้เข้ารับการอบรมฯ อีกคนกล่าวว่า ผู้ที่ผ่านการพัฒนาในครั้งนี้ถือเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง จึงต้องรักษาสิทธิของตน หากไม่มีการบรรจุแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งก็อาจจะกระทบต่อโรงเรียนต่างๆ โดยเฉพาะโรงเรียนตามชายแดนที่ห่างไกล ซึ่งต้องการผู้บริหารในช่วงเปิดภาคเรียนนี้เป็นต้นไปด้วย

“ความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากผู้เข้าสอบ แต่เกิดจากกระบวนการดำเนินการ หากต้องประมวลผลใหม่ก็จะทำให้ผู้ผ่านการพัฒนาเสียสิทธิ์ในที่สุด”

ทั้งนี้ การสอบคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ผ่านมามีการตรวจสอบพบว่าขั้นตอนการตรวจผลคะแนนสอบผิดพลาด ทำให้ กพฐ.ต้องการให้มีการประมวลผลการสอบและจัดลำดับผู้เข้าสอบใหม่จนกว่าที่ผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่สอบผ่าน และเข้าร่วมศึกษาดูงานอบรมตามโปรมแกรมที่จัดขึ้นออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน เนื่องจากเห็นว่าทำให้พวกเขาเสียสิทธิ์