ชัยนาท - ชาวนาพื้นที่ตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท หันมาเลี้ยงเป็ดบาบารี่เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้มากกว่าทำนากว่าหนึ่งเท่าตัว ดีใจแล้งปีนี้ไม่ต้องทิ้งบ้านไปใช้แรงงานต่างถิ่น เตรียมเลี้ยงเป็ดเป็นอาชีพหลัก และหยุดทำนาหากราคาข้าวยังตกต่ำ
วันนี้ (29 เม.ย.) นายชำนาญ สุขประสริฐ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.6 ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ในฤดูแล้งปีนี้ตนได้หันมาเลี้ยงเป็ดเนื้อพันธุ์บาบารี่เป็นอาชีพเสริมแทนการไปรับจ้างก่อสร้าง ไม่เหมือนกับในช่วงหน้าแล้งปีก่อนๆ ที่ไม่มีน้ำทำนา แล้วต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปรับจ้างก่อสร้างหารายได้เลี้ยงครอบครัว
แต่ปีนี้ได้หันมาทดลองเลี้ยงเป็ดบาบารี่แทน หลังจากได้ไปรับจ้างทำเล้าเป็ดให้แก่นายเฟื้อ กันท้วม เพื่อนบ้านที่เลี้ยงเป็ดพันธุ์นี้แล้วมีรายได้ดี อาศัยครูพักลักจำวิธีการเลี้ยง เห็นว่าการเลี้ยงไม่ยุ่งยาก เป็ดกินง่ายโตเร็ว แถมขายได้กำไรดีกว่าขายข้าวกว่าหนึ่งเท่าตัว
จึงตัดสินใจไม่ไปรับจ้างก่อสร้างที่กรุงเทพฯ รวบรวมเงินทุนที่มีอยู่ และไปขอกู้เพิ่มเติมได้เงินมา 37,000 บาท นำมาลงทุนทำเล้าเป็ดภายในบริเวณบ้าน และซื้อพันธุ์เป็ดมาเลี้ยงครั้งแรก จำนวน 250 ตัว ใช้เวลาเลี้ยง 2 เดือนครึ่ง ก็จับขายได้กำไร 17,000 บาท ได้กำไรสูงกว่าขายข้าวกว่า 9,500 บาท ที่สำคัญการเลี้ยงเป็ดภายในบริเวณบ้านของตัวเอง ทำให้ได้อยู่กับครอบครัว ไม่ต้องทิ้งบ้านออกไปใช้แรงงานต่างถิ่น
“ในเดือนพฤษภาคมนี้จะเริ่มเลี้ยงเป็ดรุ่นใหม่ และจะเพิ่มจำนวนเลี้ยงเป็น 500 ตัว ตั้งใจว่าเมื่อถึงฤดูทำนาปีช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้หากราคาข้าวยังตกต่ำอยู่ ผมจะไม่ทำนาจะเลี้ยงเป็ดเป็นอาชีพหลักแทน เพราะเหนื่อยน้อยกว่า และมีรายได้ดีกว่า” นายชำนาญ กล่าว
ด้าน นายเฟื้อ กันท้วม อายุ 70 ปี และนายธนะโชติ กันท้วม อายุ 39 ปี พ่อลูกอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 153/4 ม.6 ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เป็นชาวนารายแรกใน อ.สรรคบุรี ที่หันมาเลี้ยงเป็ดบาบารี่เป็นอาชีพเสริมควบคู่ไปกับการทำนา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และเป็นต้นแบบให้แก่ นายชำนาญ สุขประเสริฐ และชาวนาในพื้นที่อีก 10 ราย เริ่มหันมาเลี้ยงเป็ดบาบารี่เป็นอาชีพเสริมกันเพิ่มมากขึ้น เพราะต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่ต้องหยุดทำนา
โดย นายธนะโชติ กันท้วม กล่าวว่า ได้เริ่มเลี้ยงเป็ดเป็นอาชีพเสริมตามคำแนะนำของนายพยับ บุญปลูก ปศุสัตว์อำเภอสรรคบุรี มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ครั้งแรกเริ่มเลี้ยง 250 ตัว เลี้ยง 75 วันก็จับไปขายได้กำไร 10,000 บาท เลี้ยงมา 5 คอกแล้ว คอกปัจจุบันมีเป็ด 460 ตัว เป็ดพันธุ์นี้เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศ ให้กินผักบุ้งสับผสมกับรำข้าว หรือข้าวลูกหญ้าผสมรำข้าวเป็นอาหารให้วันละ 2 ครั้ง ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 2 เดือนครึ่ง
เมื่อเป็ดมีน้ำหนักได้ 2.8 กิโลกรัม ก็สามารถจับขายได้ โดยจะนำไปขายให้แก่โรงเชือดตามตลาดต่างๆ ในจังหวัดสุพรรณบุรี นครสวรรค์ และสิงห์บุรี ราคากิโลกรัมละ 60 บาท โดยเฉลี่ยจะขายได้ตัวละ 168 บาท ได้กำไรเฉลี่ยตัวละ 72.40 บาท
สำหรับการดูแลในเรื่องสุขอนามัยจะมีการฉีดพ่นน้ำยา EM บริเวณรอบเล้าเป็ดทุกๆ 2 วัน เพื่อป้องกันกลิ่นรบกวน มีการให้ยาปฏิชีวนะ และเสริมวิตามินให้เป็ดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อจับขายจะต้องทำความสะอาดพักเล้าอย่างน้อย 14 วัน จึงจะนำเป็ดรุ่นใหม่ลงเลี้ยงได้
นายพยับ บุญปลูก ปศุสัตว์อำเภอสรรคบุรี กล่าวว่า สำนักงานปศุสัตว์อำเภอสรรคบุรี ได้แนะนำให้ผู้สูงอายุ คนพิการ คนว่างงาน และเกษตรกรที่ว่างจากการทำนาในอำเภอสรรคบุรี หันมาเลี้ยงเป็ดเนื้อพันธุ์บาบารี่เป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ โดยนายเฟื้อ กันท้วม เป็นเกษตรกรรายแรกในพื้นที่ที่เริ่มเลี้ยงเป็ดเป็นอาชีพเสริม
โดยตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา การเลี้ยงเป็ดบาบารี่ ของนายเฟื้อ นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีชาวบ้าน และเกษตรกรในพื้นที่ให้ความสนใจเข้ามาขอดูวิธีการเลี้ยงมากขึ้น ปัจจุบันมีผู้เลี้ยงแล้ว จำนวน 10 ราย อย่างไรก็ตาม อยากให้เกษตรกรหันมาเลี้ยงเป็ดพันธุ์นี้เพิ่มมากขึ้น เพราะเลี้ยงง่าย ระยะเวลาการเลี้ยงสั้นจับขายได้เร็ว ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว