เชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 บุกค้นสำนัก “ฤาษีอิ่นคำ-ร่างทรงฤาษีนารายณ์” จอมขมังเวทแม่แตง เปิดบ้านรับสักยันต์ ทำพิธีทางไสยศาสตร์ เมตตามหานิยม หลังเปิดเว็บโฆษณาขายเครื่องรางจากอวัยวะมนุษย์ เจอน้ำมันพรายเป็นขวด รักยมเป็นกอง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าตัวยันไม่เคยทำเว็บ แต่คาดลูกศิษย์แอบทำ
วันนี้ (29 เม.ย.) พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 พร้อมกำลังตำรวจสืบสวน บุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 43/1 หมู่บ้านภูดิน ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ของนายอิ่นคำ ปัญญาเรือง อายุ 59 ปี ซึ่งเปิดเป็นสำนักฤาษีอิ่นคำ หรือร่างทรงฤาษีนารายณ์ รับสักยนต์ ทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้านเมตตามหานิยม
พบว่าในสำนักมีเครื่องรางของขลังที่ผ่านการปลุกเสกจำนวนมาก ทั้งรัก-ยม ลูกกรอก อีเป๋อ กุมารทอง มักกะลีผล หุ่น และหุ่นพยนต์ที่ทำจากเศษไม้ รวมทั้งของขลังด้านเมตตามหานิยมอื่นๆ อีกจำนวนมาก แต่ไม่พบอวัยวะมนุษย์ที่ใช้ในการทำเครื่องรางหรือสิ่งผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.ปชาเปิดเผยว่า อาจารย์อิ่นคำมีการประกาศขายเครื่องรางตามเว็บไซต์ โดยโฆษณาสรรพคุณเครื่องรางที่ทำมาจากอวัยวะมนุษย์ เช่น น้ำมันพราย ใช้อวัยวะเพศคนทั้งชายและหญิงผสมว่าน ปลุกเสก แม้ว่าวันนี้จะไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่จะนำตัวไปทำประวัติเก็บไว้ก่อนปล่อยตัวไปเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบภายหลัง
และจากการตรวจสอบในขณะนี้ยังมีฆราวาสและพระสงฆ์ที่เป็นอาจารย์ด้านไสยเวทอีกหลายราย ซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบ รวบรวบหลักฐาน และรายละเอียดส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปเพื่อเป็นการป้องปรามไปด้วย ส่วนเว็บไซต์ที่มีการประกาศขายเครื่องรางของอาจารย์อิ่นคำ วันนี้ได้ปิดเว็บแล้ว
ด้านนายอิ่นคำบอกว่า ไม่เคยนำอวัยวะมนุษย์มาใช้ในการทำพิธี แต่เคยมีลูกศิษย์นำมาเอง เมื่อทำพิธีเสร็จก็จะนำกลับไปทั้งหมด ส่วนเว็บไซต์ก็ไม่เคยทำ น่าจะมีลูกศิษย์ทำขึ้นมาเพื่อขายเครื่องรางของขลัง ตนเป็นอาจารย์ปลุกเสกให้เท่านั้น ส่วนใหญ่เมื่อทำเสร็จก็จะขอถ่ายภาพ แต่กลับมีการนำไปโฆษณาขายในเว็บไซต์
“ทุกวันนี้รับสักยันต์ครั้งละ 199 บาทเป็นค่าครูบาอาจารย์ เครื่องรางก็ให้เช่าบูชา ราคาตั้งแต่ 199 บาท ถึง 1,000 บาท ส่วนลูกศิษย์ที่มาเช่าเครื่องรางมีทั้งคนไทย ต่างประเทศ รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นที่มาขอสักยันต์ และยังมีเซียนพระสั่งจองทำอิ่นหรือรักยม เป็นรูปแกะสลักชายหญิงคู่กัน ซึ่งจะได้รับความนิยมมากที่สุดจนทำไม่ทัน แต่ต่อไปจะไม่อนุญาตให้ลูกศิษย์ถ่ายภาพอีก เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นจากการนำภาพถ่ายไปโฆษณาขายเครื่องราง”