xs
xsm
sm
md
lg

ทหารบุรีรัมย์นำติดป้ายแนวเขตตามคำสั่งศาล หลังนายทุนฮุบป่าออกเอกสารสิทธิ์อื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทหารพร้อมจนท.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนชาวบ้าน เข้าสำรวจพร้อมติดป้ายแสดงแนวเขตป่าสาธารณะโคกกระเบื้อง ตามคำพิพากษาศาล หลังมีนายทุนรุกออก นส.3 ก. ฮุบที่ป่า กว่า 80 ไร่ วันนี้ ( 27 เม.ย.)
บุรีรัมย์ - ทหารบุรีรัมย์ ร่วมจนท.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนชาวบ้านที่อนุรักษ์ป่า เข้าสำรวจพร้อมติดป้ายแสดงแนวเขตป่าสาธารณะโคกกระเบื้อง ตามคำพิพากษาศาลหลังมีนายทุนรุกออก นส.3 ก. ฮุบที่ป่ากว่า 80 ไร่ เตรียมจัดสรรขายและมีชาวบ้านรุกทำประโยชน์อีกกว่า 2 พันไร่ หากฝ่าฝืนแจ้งจับดำเนินคดี

วันนี้ (27 เม.ย.) พ.ท.ประพล อาจหาญ ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และช่วยเหลือประชาชนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ,นายสุพบ เทือกจอหอ ตัวแทนสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ,นายทศพล ทองเจริญ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.1 (ดงใหญ่) , นายอำเภอชำนิ รอง ผกก. สภ.ชำนิ , นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่อผกา กำนันตำบลช่อผกา ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนชาวบ้านที่อนุรักษ์ป่ากว่า 100 คน

ได้ร่วมกันออกเดินสำรวจพร้อมนำป้ายเหล็กขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า “ที่ดินแปลงนี้เป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขแดงที่ 4043/2550 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7426/2554 ขณะนี้ทาง อบต.ช่อผา กำลังดำเนินการขอเพิกถอน นส.3ก. ห้ามกระทำการใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเด็ดขาด” ไปติดตั้งไว้รอบพื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์โคกกระเบื้อง บ.หนองตาเปล่ง ต.ช่อผกา อ.ชำนิ

ทั้งนี้เพื่อแสดงแนวเขตว่าพื้นที่ดังกล่าว ที่นายทุนเข้าไปบุกรุกออกเอกสารสิทธิ์ นส.3ก. ทับที่ป่าจำนวน 80 ไร่ และเตรียมจะจัดล็อกแบ่งขายนั้นเป็นป่าสาธารณะประโยชน์ตามคำพิพากษาศาลฎีกา อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องปราบไม่ให้กลุ่มนายทุนหรือชาวบ้านเข้าไปบุกรุกป่าดังกล่าวซ้ำอีก ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ทาง อบต. ได้คัดค้านการออกเอกสารสิทธิ นส.3 ก.ที่ดินแปลงดังกล่าวที่นายทุนบุกรุก ทั้งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินและเป็นผู้มีสิทธิครอบครองทำประโยชน์มาตั้งแต่ ปี 2507 กระทั่งมีการฟ้องร้องระหว่าง อบต.และผู้บุกรุก และล่าสุดศาลฎีกาได้ยืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณะประโยชน์ จึงได้นำป้ายมาติดแสดงแนวเขต

ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปเดินสำรวจและติดป้ายแสดงแนวเขต ยังพบเตาเผาถ่านและไม้ประดู่ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามกองอยู่รอบเตา ซึ่งอยู่ในเขตป่าสาธารณะดังกล่าวมากกว่า 100 ท่อน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงได้ช่วยกันทำลายเตาเผาถ่านดังกล่าว พร้อมให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจยึดไม้ทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ ทั้งจะได้สืบสวนหาเจ้าของไม้มาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ด้านนายสำรวย บ่อไทย นายก อบต.ช่อผกา กล่าวว่า ป่าสาธารณะประโยชน์โคกกระเบื้องดังกล่าวเป็นป่าผืนสุดท้ายของตำบล เดิมมีเนื้อที่กว่า 4,000 ไร่ แต่ได้ถูกนายทุนและชาวบ้านบุกรุกออกเอกสารสิทธิครอบครอง ทั้งยังมีชาวบ้านลักลอบเข้าไปปลูกอ้อย และมันสำปะหลัง มากกว่า 2,000 ไร่ ปัจจุบันเหลือพื้นที่ป่าอยู่เพียง 2,000 ไร่

ที่ผ่านมาทาง อบต.ได้มีการจัด จนท.เข้าไปสำรวจดูแลผืนป่า และปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ป่า แต่ก็ยังมีผู้ลักลอบเข้าไปบุกรุกอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงขั้นมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุกมากกว่า 40 คดี ซึ่งบางรายยอมออกจากพื้นที่ป่าที่บุกรุก ส่วนหลายรายที่ไม่ยอมออกก็ถูกดำเนินการตามกฎหมาย
“ข้อหาบุกรุกทำลายและแผ้วถางป่า”

ส่วนการออกเอกสารสิทธิครอบครองพื้นที่ป่าของนายทุนนั้น เชื่อว่าน่าจะมีการดำเนินการโดยไม่ถูกต้อง หรืออาจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนรู้เห็นหรือเอื้อประโยชน์ด้วย ซึ่งทาง อบต.จะได้เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการเพิกถอนเอกสารสิทธิดังกล่าวต่อไป







กำลังโหลดความคิดเห็น