น่าน - รองนายกรัฐมนตรี พร้อม ผบ.ทบ. แม่ทัพภาคที่ 3 และท่านผู้หญิงบุตรี นำคณะดูงานพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเมืองน่าน สั่ง ก.เกษตรฯ ใช้เป็นต้นแบบหนุนทุกจังหวัดทำ เชื่อช่วยเกษตรกรอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนแน่
วันนี้ (27 เม.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ มทภ.3 ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ และคณะ ได้เดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพบกมายังท่าอากาศยานน่านนคร เพื่อลงพื้นที่เยี่ยมชมและศึกษาดูงานการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาคการเกษตรและชนบท ของโครงการบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่จังหวัดน่าน ตามแนวพระราชดำริ
โดยมีนายอุกริช พึ่งโสภา ผวจ.น่าน พร้อมด้วย ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการกิจการส่งเสริมและพัฒนามูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ พร้อมด้วยส่วนราชการทุกภาคส่วน ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปภารกิจผลการดำเนินงาน
พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะได้เข้าศึกษาดูงาน ติดตามความคืบหน้าและกำหนดแผนงานโครงการ 3 จุด คือ จุดแรกพื้นที่บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ รับฟังการบรรยายเรื่องการจัดการป่า พื้นที่ทำกิน และการจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วม แนวทางการบริหารจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ การประยุกต์แนวพระราชดำริ “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” และ “คนอยู่กันป่า” ด้วยการเพิ่มพื้นที่ป่า ปลูกป่าอนุรักษ์ ป่าเศรษฐกิจ ป่าใช้สอย รวมทั้งพบปะราษฎรบ้านน้ำช้างกลุ่มกองทุนปลูกป่า การดูแลรักษ์ป่าโดยชุมชน
จุดที่ 2 พื้นที่ฝายแก้ง บ้านหัวน้ำ ต.ศิลาแลง อ.ปัว โดยได้รับฟังการชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน โครงการซ่อมแซม ปรับปรุง เสริมฝาย อ่างเก็บน้ำ การส่งน้ำด้วยระบบท่อ ตามยุทธศาสตร์การบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (พ.ศ. 2557-2560) 600 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์ 104,490 ไร่ กำหนดแล้วเสร็จก่อนการทำนาในฤดูฝน ชาวบ้านได้ทำเกษตรพืชหลังทำนา ในปัจจุบันสามารถปลูกข้าวในพื้นที่ได้ 1,784 ไร่
จุดที่ 3 แปลงเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากฝายน้ำริม บ้านพ่อ ต.แสนทอง อ.ท่าวังผา ซึ่งได้รับฟังการบรรยายการปรับปรุงฝาย การดูแลรักษาป่าของต้นน้ำริม การบริหารจัดการกลุ่มผู้ใช้น้ำ และประโยชน์ที่ได้รับจากการซ่อมแซมฝายบ้านพ่อ ครอบคลุม 14 หมู่บ้าน พื้นที่ 4,000 ไร่ ปลูกพืชหลังทำนาเสร็จ ได้แก่ ใบยาสูบ ผักกาดเขียวปลี มะข้อม่วง มันอลู และข้าวโพด
พล.อ.ประวิตรกล่าวหลังลงพื้นที่ว่า ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรับช่วงสานต่อการส่งเสริมพืชที่เหมาะสมในพื้นที่ที่มีการปรับปรุงแหล่งน้ำแล้วเพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน พร้อมนำจังหวัดน่านเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาเรื่องแหล่งน้ำด้านการเกษตร ซึ่งหากทุกจังหวัดสามารถทำได้ตามแบบจังหวัดน่านเชื่อว่าจะทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่มั่นคงและรายได้ที่ยั่งยืนแน่นอน
ทั้งนี้ จังหวัดน่านได้มีการพัฒนาต่อยอดหมู่บ้าน อำเภอตามแผนงานโครงการ 1 อำเภอ 1 ลุ่มน้ำ 1 ธนาคาร ตามวาระจังหวัดน่าน “สร้างเมืองน่านน่าอยู่ คู่ป่าต้นน้ำ” ปัจจุบันเกิดหมู่บ้านเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ 532 หมู่บ้าน ซึ่งหลังการศึกษาดูงานแล้วมีผู้นำชุมชนในหลายพื้นที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการ และเสนอความต้องการเพิ่มเติมในการสร้างฝายต้นน้ำ 651 ฝาย