คสช.-ทม.หนองปรือ เร่งช่วยชาวบ้านถูกดินสไลด์ถล่ม

ศูนย์ข่าวศรีราชา - คสช.และ ทม.หนองปรือ ลงพื้นที่เร่งแก้ปัญหาดินสไลด์จากพื้นที่เอกชนเข้าท่วมเคหะเอื้ออาทร สร้างความเสียหายต่อที่พักอาศัย ยานพาหนะ ก่อนเรียกผู้ประกอบการรับผิดชอบ พร้อมดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก ถมดินสูง ก่อสร้างกำแพงกันดิน และทับทางสาธารณะ

จากกรณีที่มีประชาชนในพื้นที่โครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร หนองไม้แก่น ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาดินสไลด์ และมวลน้ำไหลทำลายแนวกำแพงโครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ใกล้เคียง จนน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทำให้ที่พักอาศัย ยานพาหนะ และระบบสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด วันนี้ (14 เม.ย.) ร.ต.ดวงแก้ว ธรรมวงศ์ นายทหารชุดควบคุมพื้นที่ มบท.14 พร้อมด้วยนายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ เจ้าหน้าที่จากการเคหะแห่งชาติ และกำลังทหาร ข้าราชการ หน่วยงานภาคเอกชน พร้อมอุปกรณ์ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว พร้อมการจัดตั้งโต๊ะเพื่อบันทึกข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นพบว่า มีชาวบ้านได้รับความเสียหายเกี่ยวกับที่พักอาศัย 19 ราย รวมทั้งความเสียหายเกี่ยวกับยานพาหนะเป็นรถยนต์ 6 คัน รถจักรยานยนต์ 7 คัน และระบบสาธารณูปโภคในโครงการ ซึ่งจะทำการรวบรวมไว้ก่อนนำไปเจรจาต่อผู้ประกอบการเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป

นายมาย ไชยนิตย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาของภาคเอกชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่เตรียมดำเนินการก่อสร้างโครงการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และที่พักอาศัยไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดของเทศบาล

ประกอบด้วย การถมแนวดินสูงเกินความจำเป็น ซึ่งถือว่าผิดตาม พ.ร.บ.ถมดิน รวมทั้งมีการก่อสร้างกำแพงแนวกันที่ดินขนาดความสูงกว่า 4 เมตร ซึ่งผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และการถมดินทับทางสาธารณะ ซึ่งเมื่อมีพายุฝนตกลงมาเป็นจำนวนมากมวลน้ำจึงสะสมภายในกระทั่งดันกำแพงคันดินจนแตก น้ำจึงไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใกล้เคียง ซึ่งกรณีนี้ทางเทศบาลได้แจ้งให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ จึงได้เร่งรัดแจ้งดำเนินคดีตามขั้นตอน

ส่วนกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ทางผู้ประกอบการคงต้องรับผิดชอบเพราะจะมาแจ้งว่าเป็นภัยทางธรรมชาติไม่ได้ เนื่องจากพื้นที่นี้จังหวัดชลบุรี ไม่ได้ประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติ จึงได้แจ้งให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อน อีกทั้งในวันที่ 16 เม.ย.นี้ จะได้เรียกผู้ประกอบการเข้าร่วมเจรจาเพื่อสรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อไป