บุรีรัมย์ - การประปาส่วนภูมิภาคใช้งบจากเงินรายได้และงบอุดหนุนของรัฐบาล 80 ล้านบาทก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำไม่เพียงพอผลิตประปา ทั้งรองรับยอดผู้ใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นทุกปี เผยสามารถสูบน้ำได้วันละ 36,000 ลบ.ม. ขณะช่วงหน้าแล้งยอดใช้น้ำพุ่งเป็นวันละ 28,000 ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากปกติ
วันนี้ (8 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดบุรีรัมย์ได้ทำการทดสอบเครื่องสูบน้ำดิบ ที่โรงสูบน้ำดิบอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จก่อนจะเริ่มใช้งานจริงภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ภายหลังจากทางการประปาส่วนภูมิภาคได้ใช้งบประมาณจากเงินรายได้ 40 ล้านบาท และเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอีก 40 ล้านบาท รวมเป็น 80 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบแห่งใหม่ดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อทำการสูบน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดส่งไปยังโรงกรองน้ำโดยตรง ก่อนผลิตประปาแจกจ่ายแก่ประชาชนผู้ใช้น้ำในเขตบริการ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาภัยแล้ง ลดขั้นตอน และค่าใช้จ่าย รวมถึงลดการสูญเสียน้ำจากการระเหยรั่วซึม เนื่องจากก่อนหน้านี้ช่วงหน้าแล้งของทุกปีจะต้องสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดไปเติมใส่อ่างห้วยจระเข้มาก เนื่องจากน้ำดิบในอ่างห้วยจระเข้มากไม่เพียงพอ
อีกทั้งยังเป็นการรองรับยอดผู้ใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยปีละ 5-10 เปอร์เซ็นต์จากการขยายตัวของเมืองอีกด้วย
โรงสูบน้ำแห่งใหม่ดังกล่าวจะสามารถสูบน้ำดิบได้วันละ 36,000 ลูกบาศก์เมตร ขณะที่ยอดผู้ใช้น้ำในเขต อ.เมือง และ อ.ห้วยราช ปัจจุบันอยู่ที่ 27,300 ครัวเรือน ปริมาณการใช้น้ำเฉลี่ยวันละกว่า 28,000 ลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติกว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตร
นายสุวิทย์ จันทรุกขา ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ กล่าวว่า การสร้างโรงสูบน้ำดิบแห่งใหม่ดังกล่าวเพื่อทำการสูบน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดส่งไปยังโรงกรองโดยตรงเพื่อผลิตประปาได้อย่างเพียงพอ จากเดิมช่วงหน้าแล้งทุกปีจะต้องสูบน้ำจากห้วยตลาด และลำน้ำมาศไปเติมใส่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากเพื่อสำรองไว้ผลิตประปาซึ่งทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณและสูญเสียน้ำจากการระเหยรั่วซึม แต่หากสูบตรงดังกล่าวจะลดการสูญเสียน้ำได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และรองรับปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นได้