เลย - กรณีปัญหาชายวัย 61 อาศัยอยู่ในอำเภอเอราวัณ ร้องถูกสวมบัตรประชาชนทำให้เสียโอกาสใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลและลูกไม่สามารถเข้าเรียนหนังสือได้เพราะบิดาตกอยู่ในฐานะไร้สัญชาติ ล่าสุดกรมการปกครองสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเพื่อให้ความช่วยเหลือออกบัตรประชาชนในฐานะคนไทยให้
จากกรณีนายคำพี โพสาราช อายุ 61 ปี อาศัยอยู่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 13 ต.ผาอินแปลง อ.เอราวัณ จ.เลย ภูมิลำเนาเดิมมาจาก อ.สว่างดินแดน จ.สกลนคร มีฐานะยากจนมาก อาชีพเผาถ่านขาย มีภรรยาเป็นคนลาวป่วยทางประสาท มีลูก 3 คนได้ไปขอทำบัตรประชาชนที่ อ.เอราวัณ ถูกปฏิเสธเพราะมีคนสวมบัตรประชาชนแทนไปแล้ว หน้าตาก็ไม่เหมือนกัน และทราบว่าคนที่สวมบัตรได้เปลี่ยนชื่อ และย้ายทะเบียนไปอยู่ที่เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
นายคำพีเล่าว่า ตนเกิดที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อปี 2497 พออายุได้ 12 ปี ครอบครัวของตนได้อพยพไปทำมาหากินที่ สปป.ลาว ต่อมาเมื่อตนอายุ 19 ปี ลาวเกิดสงครามจึงได้อพยพกลับมาอยู่เมืองไทย และได้ขอทำบัตรประชาชนครั้งแรกโดยให้หมอตำแยที่เคยทำคลอดตนเป็นผู้รับรอง ทำที่ อ.สว่างแดนดิน หลังสงครามลาวสงบลงตนก็เดินทางไปหากินที่ลาวอีก และได้ภรรยาเป็นคนลาวมีลูกด้วยกัน 3 คน ต่อมาได้อพยพมาอยู่เมืองไทย ตนได้ทำบัตรประชาชนและต่ออายุบัตรมา 3 ครั้งแล้ว
โดยลูกของตนเกิดเมืองไทยทั้งหมด ปัจจุบันลูกชายคนแรกได้บวชเณรอยู่ที่วัดเอราวัณ ส่วนลูกสาวอีก 2 คน อายุ 9 ขวบ และน้องสุดท้องอายุ 4 ขวบ ไม่สามารถเข้าเรียนหนังสือได้เนื่องจากบัตรประชาชนของตนได้สูญหายไปจึงไม่มีผู้รับรองเข้าเรียนได้ และตนมีอาชีพหาเช้ากินค่ำไม่มีเงินเดินทางที่จะไปทำบัตรที่ อ.สว่างแดนดิน จึงได้ปล่อยเลยตามเลยมาหลายปี
กระทั่งเมื่อต้นเดือน ก.พ. 58 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและปกครองตั้งด่านตรวจขณะเดินผ่านด่านตรวจถูกเจ้าหน้าที่ปกครองถามหาบัตรประชาชน แต่ตนไม่มีเจ้าหน้าที่จึงได้พาตนมาทำบัตรประชาชนที่ อ.เอราวัณ จึงรู้ว่าตนถูกสวมสิทธิ มีคนอื่นใช้ชื่อ-นามสกุลของตน ออกบัตรไปแล้ว และยังเปลี่ยนชื่อตนเป็นนายมงคลอีกต่างหาก
ทุกวันนี้ตนยึดอาชีพหาตัดไม้ที่ตายแล้วตามข้างทาง ตามป่าละเมาะละแวกหมู่บ้าน มาเผาถ่านขายมีรายได้แทบไม่พอกิน ส่วนภรรยาหลังจากคลอดลูกคนที่ 3 ก็ป่วย กลายเป็นคนใบ้ไม่พูดจากับใคร ที่ต้องร้องเรียนครั้งนี้เพราะอยากจะให้ลูกทั้ง 3 คนได้เรียนหนังสือ และถ้าตนป่วยก็จะได้สิทธิใช้บัตรทองเหมือนกับคนอื่นเขา เอาสิทธิความเป็นคนไทยคืนกลับมาเท่านั้นเอง
จากกรณีปัญหาดังกล่าว ล่าสุดนายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเอราวัณ จ.เลย ได้อำนวยความสะดวก โดยมอบหมายให้ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน อ.เอราวัณ และเทศบาลผาอินแปลง เจ้าของพื้นที่นำตัวนายคำพี โพสาราช และครอบครัวเดินทางไป อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เพื่อไปขอทำบัตรประชาชน ซึ่งสำนักทะเบียนสว่างแดนดินได้สอบปากคำนายคำพีไว้แล้ว และอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานในพื้นที่อีกหลายปาก โดยทาง อ.เอราวัณได้ส่งหนังสือราชการไปยัง อ.สว่างแดนดิน
โดยระบุว่าปัญหาของนายคำพีน่าจะมีการสวมบัตรประชาชน และทาง อ.เอราวัณก็ได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ขณะที่ อ.สว่างแดนดินก็ได้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครทราบแล้วเช่นกัน
กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นทางกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ก็ให้ความสนใจ โดยสั่งการให้ทั้ง อ.เอเราวัณ และ อ.สว่างแดนดินทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีพยานหลักฐาน ทราบได้ว่า นายคำพี โพสาราช เป็นชาว อ.สว่างแดนดินจริง แต่ขาดการติดต่อในระบบราชการไปนานและมีบุคลอื่นไปสวมบัตรประชาชนแทน ซึ่งจะสรุปให้เสร็จมีผลออกมาภายในเดือนเมษายน 2558 นี้ หากสามารถพิสูจน์ได้ว่านายคำพี โพสาราช เป็นคนไทยจริงก็สามารถออกและทำบัตรประชาชนให้ได้
