ฉะเชิงเทรา - เรือนจำแปดริ้ว ปล่อยตัว 256 นักโทษ ตามมาตรา 6 (1) และ 6 (1ฉ) รวมถึงมาตรา 5 (1) ถวายสมเด็จพระเทพฯ เจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ขณะบรรดาญาติต่างมาเฝ้ารอคอยงเนืองแน่นตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ หลังได้รับอิสรภาพต่างโผสวมกอดกันชื่นมื่น
วันนี้ (7 เม.ย.) นายยศพนต์ สุธรรม ผู้บัญชาการเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ทำพิธีปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดที่เหลือกำหนดโทษจำคุกต่อไปไม่เกิน 1 ปี ตามมาตรา 6 (1) จำนวน 183 คน และนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยมที่เหลือกำหนดโทษไม่เกิน 2 ปี จำนวน 19 คน ตามมาตรา 6 (1ฉ) รวมถึงผู้ต้องกักขัง ตามมาตรา 5 (1) จำนวน 54 คน เป็นชาย 230 คน และหญิง จำนวน 26 คน รวม 256 คน
โดยมี นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา มาเป็นประธาน นายรักกิจ วิริยะประเสริฐ ประธานศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มาร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งบรรยากาศโดยรอบเรือนจำมีญาติของผู้ต้องขังมาเฝ้ารอยคอยการได้รับอิสรภาพกันอย่างเนืองแน่นตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ หลังจากได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสรภาพแล้ว ทั้งผู้ถูกปล่อยตัว และญาติต่างโผเข้าสวมกอดกันอย่างชื่นมื่น
นายเฉย น้อยมณี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.12 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา บิดาของนายน้อย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี กล่าวว่า มารอคอยการปล่อยตัวของบุตรชายตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าตรู่ หลังจากได้ทราบข่าวว่า บุตรชายจะได้รับอิสรภาพจากการได้รับการพระราชทานอภัยโทษด้วย ซึ่งหลังจากบุตรชายออกมาจากเรือนจำแล้ว อยากให้เขาเป็นคนดี ต้องมีการอบรมสั่งสอนกันใหม่ และจะได้ให้บวชเรียนเพื่อสงบจิตใจ และจะได้ทบทวนในสิ่งที่ทำผิดพลาดไปแล้วในชีวิตช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นไม่อยากโทษใคร เนื่องจากเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน เขายังอยู่ในช่วงวัยรุ่น วัยคึกคะนอง เมื่อกลุ่มเพื่อนฝูงชักชวนให้ไปทำอะไรไม่ดีก็พากันทำตามกันไป จึงเกิดความผิดพลาดขึ้นในชีวิต จนต้องถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่มาถึงวันนี้เขาได้รับโทษมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี 3 เดือน จากข้อหาวิ่งราวทรัพย์ จึงถือเป็นบทเรียนในชีวิตของเขาที่ควรจดจำ และไม่ควรคิดหวนกลับไปทำอีก เพราะในขณะที่เขาก่อเหตุนั้นก็ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรจากผู้เสียหายไปมากนัก มีเพียงโทรศัพท์มือถือ และเศษสตางค์เพียงไม่กี่บาท จึงถือว่าไม่คุ้มค่าอย่างยิ่งในชีวิตของเขาที่ได้กระทำลงไป