xs
xsm
sm
md
lg

ศาลจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา “เอกชัย” แอบอ้างเบื้องสูง เรียกเงินล้มคดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายเอกชัย หรือเอฟ พลอยหิน อายุ 28 ปี (แฟ้มภาพ)
ศาลสั่งจำคุก 10 ปี ไม่รอลงอาญา เอกชัย หรือ “เอฟ พลอยหิน” แอบอ้างเบื้องสูง เรียกรับทรัพย์สินค่าวิ่งเต้นล้มคดี-ผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จำเลยรับสารภาพลดโทษเหลือติดคุก 5 ปี

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ที่ห้องเวรชี้ใต้ถุนศาลอาญา เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ศาลนัดสอบคำให้การคดีหมายเลขดำ อ.868/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอกชัย หรือเอฟ พลอยหิน อายุ 28 ปี เป็นจำเลยฐานหมิ่นเบื้องสูง, เรียกหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยวิธีทุจริต ผิดกฎหมาย หรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายเอกชัยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อมาสอบคำให้การจำเลย

คดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2551 นายเอกชัย จำเลยได้กล่าวอ้างกับ น.ส.บุษกร อุ่นใจ ผ่านทางโทรศัพท์ว่าสามารถช่วยเหลือนายไพฑูรย์ เนมีแสน สามีของ น.ส.บุษกร ที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำพิเศษจังหวัดราชบุรี ให้หลุดพ้นจากคดีเกี่ยวกับยาเสพติดได้ โดยเรียกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจำนวน 2 ล้านบาท พร้อมนัดหมายให้ไปพบกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี เมื่อไปถึงที่ร้านจำเลยได้แสดงตนต่อ น.ส.บุษกร และนายบรรเทิง เนมีแสน พ่อนายไพฑูรย์ว่าเป็นหลานของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา (พระยศในขณะนั้น) ทำให้นายบรรเทิงเชื่อว่าจำเลยจะช่วยเหลือนายไพฑูรย์ได้จริง จึงตกลงจะชำระเงินตามที่จำเลยเรียกร้อง ต่อมาวันที่ 22 ธ.ค. 2551 เวลากลางวัน จำเลยได้นัดหมายให้นายบรรเทิงและ น.ส.บุษกรนำเงินไปมอบให้ที่โรงแรมโกลเด้นส์ซิตี้ จ.ราชบุรี แต่นายบรรเทิงหาเงินสดได้เพียง 1.3 ล้านบาท จึงมอบให้แก่จำเลย โดยจำเลยบอกว่าจะนำเงินไปดำเนินการให้เรียบร้อย แสดงให้เห็นว่าจำเลยจะนำเงินดังกล่าวไปจูงใจเจ้าพนักงานให้กระทำผิดกฎหมาย และจำเลยมีเจตนาสื่อสารแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง แต่เมื่อจำเลยรับเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้วปรากฏว่านายไพฑูรย์ไม่ได้รับการประกันตัวและถูกศาลพิพากษาจำคุก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง, เรียกหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยวิธีทุจริต ผิดกฎหมาย หรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด

นอกจากนี้ จำเลยยังบังอาจมีอาวุธปืนยาวลูกซองเดี่ยวขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนลูกซองจำนวน 11 นัด อาวุธปืนยาวเดี่ยว แบบสไลด์แอ็กชัน ขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก ปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. LUGER จำนวน 1 กระบอก และซองกระสุนปืน จำนวน 2 อัน ปืนพกออโตเมติก ขนาด .38 SUPER จำนวน 1 กระบอก และซองกระสุนปืน จำนวน 2 อัน ปืนพกออโตเมติก ขนาด .380 (9 มม.KURZ) จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุนปืนจำนวน 2 อัน กระสุนปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. LUGER จำนวน 13 นัด กระสุนปืนออโตเมติก ขนาด .38 SUPER จำนวน 17 นัด และกระสุนปืนออโตเมติก ขนาด .380 จำนวน 14 นัด โดยอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของบุคคลอื่นซึ่งได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวอยู่ในสภาพที่สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิต ไว้ในครอบครองของจำเลย โดยจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มี เหตุเกิดที่ ต.จอมบึง อ.จอมบึง ต.โคกหม้อ อ.เมือง ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี

ศาลได้อธิบายคำฟ้องและสอบถามแล้วว่าจะให้การอย่างไร จำเลยให้การรับสารภาพ จึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง จำคุก 5 ปี ความผิดฐานเรียกหรือยอมรับทรัพย์สินฯ จำคุก 2 ปี และความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 3 ปี รวมโทษจำคุก 10 ปี แต่ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 5 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น