xs
xsm
sm
md
lg

ที่ดินโคราชชี้ชัด น.ส.3 ก.โบนันซ่าออกทับป่าสงวน เสนอเพิกถอนทั้งหมด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ที่ดินโคราชชี้เอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.โบนันซ่าออกโดยมิชอบทับที่ป่าสงวนแห่งชาติทั้งหมด 5 แปลง รวมกว่า 55 ไร่ เสนอกรมที่ดินตั้งกรรมการเพิกถอนเอกสารสิทธิทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกรมป่าไม้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กองทัพภาคที่ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำโดย พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) และคณะ บุกเข้าตรวจสอบพื้นที่สนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดเวย์ (International Bonanza Speed Way) ซึ่งเป็นโครงการโบนันซ่าของนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักการเมืองและนักธุรกิจรายใหญ่ ตั้งอยู่ หมู่ 11 บ้านโบนันซ่า ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 31 มี.ค. และพบมีการก่อสร้างสนามแข่งรถและอาคารที่พักบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง เขาอ่างหิน กว่า 100 ไร่นั้น

ล่าสุดวันนี้ (7 เม.ย.) ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา นายมนศักดิ์ อารักษ์ ที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง ได้ลงสำรวจพื้นที่โบนันซ่า ได้สรุปผลเบื้องต้นว่า หนังสือรับรองทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 925,926,927,928 และ 930 รวม 5 แปลง ใน ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 55-3-55 ไร่ จากการตรวจสอบจากแบบบันทึกการสอบสวนสิทธิ์และพิสูจน์การทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศขณะทำการเดินสำรวจที่ดินทั้ง 5 แปลงดังกล่าวไม่เป็นที่ราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน ที่เขา ที่ภูเขา หรือที่สงวนหวงห้าม หรือที่ทางราชการหวงห้ามไว้ เพื่อเป็นทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีผู้คัดค้านได้ออก น.ส.3 ก. เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519

ได้สอบสวนระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ ชื่อ อ.ปากช่อง หมายเลข 4238II แผนที่ 126 และระวางแผนที่ UTM ระวาง 5238II6012, 6014, 6214 ซึ่งระวางดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง ป่าเขาอ่างหิน และป่าโครงการรถไฟมวกเหล็ก-สีคิ้ว ซึ่งป่าสงวนทั้ง 2 ป่าทับซ้อนกัน

ฉะนั้น ชัดเจนว่าพื้นที่สนามแข่งรถทั้งหมดของโบนันซ่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ และเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ที่มีอยู่ออกโดยมิชอบ ซึ่งการดำเนินการต่อไป ตนได้สั่งการให้กลุ่มงานวิชาการสำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมาสาขาปากช่อง ให้ทำการสำรวจว่าเอกสารสิทธิดังกล่าวได้มาเมื่อไหร่ จากหลักฐานใด อย่างไร และออกก่อนการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ หากได้มาหลังประกาศเขตป่าสงวนฯ ก็ต้องทำการเพิกถอน

จากนั้นจะนำเรื่องทั้งหมดเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาลงความเห็นในการเพิกถอนและเสนอกรมที่ดินตั้งกรรมการในการเพิกถอนต่อไป คาดว่ากระบวนการดำเนินการจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้แน่นอน

ต่อข้อถามจะมีการตรวจสอบพื้นที่อื่นๆ ของโบนันซ่าหรือไม่ นายมนศักดิ์กล่าวว่า หากมีการชี้จุดทางที่ดินก็พร้อมที่จะเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในรัศมี 1 กม.จากบริเวณสนามแข่งรถ ซึ่งพบว่าอีกหลายแปลงที่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ข้อมูลการครอบครองที่ดินของ บริษัทโบนันซ่ากอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ จำกัด (บริเวณสนามแข่งรถโบนันซ่าเขาใหญ่) มีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. 5 แปลง ประกอบด้วย

น.ส.3 ก. เลขที่ 925 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 6-1-40 ไร่ ออกโดยวิธีเดินสำรวจเพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศ โดยมิได้แจ้งการครอบครองออกให้แก่ นางสอน คำพลกรัง เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 ในขณะนำทำการเดินสำรวจ นางสอนได้ที่ดินมาโดยก่นสร้างมาด้วยตนเองประมาณ 25 ปี และครอบครองทำประโยชน์เสมอมา ปัจจุบันมีชื่อบริษัทซับม่วง จำกัด มีชื่อเป็นผู้ถือสิทธิครอบครองโดยซื้อมาจากนางสวรรค์ เข็มภาษิต เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2547

แปลงเลขที่ 926 ต.ขนงพระ เนื้อที่ 9-1-63 ไร่ ออกโดยวิธีเดียวกัน ออกให้แก่นายพันธ์ คำพลกรัง เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 ในขณะนำทำการเดินสำรวจ นายพันธ์ได้ที่ดินมาโดยรับให้มาจากบิดามาประมาณ 10 ปี ก่อนนั้นบิดาได้ก่นสร้างมาด้วยตนเองประมาณ 15 ปี และครอบครองทำประโยชน์เสมอมา ปัจจุบันมีนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ มีชื่อเป็นผู้ถือสิทธิครอบครองโดยซื้อมาจากนายพันธ์ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2543

แปลงเลขที่ 927 ต.ขนงพระฯ เนื้อที่ 16-1-90 ไร่ออกโดยวิธีเดียวกัน โดยออกให้แก่นายบุญส่ง คำพลกรัง เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 ขณะนำทำการเดินสำรวจ นายบุญส่ง ได้ที่ดินมาโดยรับให้มาจากมารดามาประมาณ 5 ปี ก่อนนั้นมารดาได้ก่นสร้างมาด้วยตนเองประมาณ 20 ปี และครอบครองทำประโยชน์เสมอมา ปัจจุบันมีนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ มีชื่อเป็นผู้ถือสิทธิครอบครองโดยซื้อมาจากนางเสน่ห์ กิริรัมย์ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2543

แปลงเลขที่ 930 ต.ขนงพระฯ เนื้อที่ 7-1-20 ไร่ ออกโดยวิธีเดียวกัน โดยออกให้แก่นางเทศ นพรัตน์ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 ขณะนำทำการเดินสำรวจ นางเทศได้ที่ดินมาโดยรับให้มาจากบิดามาประมาณ 5 ปี ก่อนนั้นบิดาได้ก่นสร้างมาด้วยตนเองประมาณ 20 ปี และครอบครองทำประโยชน์เสมอมา ปัจจุบันมีนางภัสสรา เตชะณรงค์ (น.ส.พรรณี สุจิรภิญโญกุล) มีชื่อเป็นผู้ถือสิทธิครอบครอง โดยซื้อมาจากนางนกเทศ แวะสันเทียะ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2539

แปลงเลขที่ 928 ต.ขนงพระฯ เนื้อที่ 16-1-50 ไร่ ออกโดยวิธีเดียวกัน โดยออกให้แก่นายเขียว แวะสันเทียะ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 ขณะนำทำการเดินสำรวจ นายเขียวได้ที่ดินมาโดยก่นสร้างมาด้วยตนเองประมาณ 23 ปี และครอบครองทำประโยชน์เสมอมา ปัจจุบันมี น.ส.พรรณี สุจิรภิญโญกุล มีชื่อเป็นผู้ถือสิทธิครอบครองโดยซื้อมาจากนายเขียว แวะสันเทียะ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2539



กำลังโหลดความคิดเห็น