ศรีสะเกษ - ตำรวจ ตม.นครพนม ร่วมศรีสะเกษ รวบสองผัวเมียแสบ ลวง 2 เด็กสาวลาว-ไทย อายุ 15-17 ปี ค้ากาม รับสารภาพไปรับเด็กสาวมาจากประเทศลาว อ้างพาไปทำงานร้านคาราโอเกะในไทยแต่กลับข่มขู่บังคับให้ค้าประเวณี เผยแจ้งข้อหาหนักพรากผู้เยาว์ ร่วมกันค้ามนุษย์และค้าประเวณี
วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนกันทรลักษ์-ศรีสะเกษ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ ค้าดี ผู้กำกับการ (ผกก.) ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด (ตม.จว.) นครพนม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ พ.ต.ท.เศรษฐภัทร ณ สงขลา สวญ.ตม.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.สังวร วันทะวี พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการ สภ.กันทรลักษ์ ร.ต.อ.เสกสิทธิ์ สาระวรรณ รอง สว.สส.สภ.กันทรลักษ์
ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.นครพนม ตม.จว.ศรีสะเกษ สภ.กันทรลักษ์ และเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ร่วมกันทำการจับตัว นายมงคลชัย สีเนียม อายุ 24 ปี สัญชาติไทย อยู่บ้านเลขที่ 25/64 ถ.เทพารักษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ นางพอน ต้นพิม อายุ 49 ปี สัญชาติลาว ภูมิลำเนาอยู่บ้านท่าเดื่อ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ซึ่งเป็นภรรยาของนายมงคลชัย พร้อมด้วยของกลางเป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กท 6586 ขอนแก่น จำนวน 1 คัน ซึ่งนายมงคลชัยเป็นผู้ขับมา
พ.ต.ท.เศรษฐภัทร ณ สงขลา สวญ.ตม.จว.ศรีสะเกษ และ พ.ต.ท.สังวร วันทะวี พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการ สภ.กันทรลักษ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ขอให้ช่วยเหลือ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุประมาณ 14 ปี สัญชาติลาว ที่ถูกล่อลวงให้มาค้าประเวณีอยู่ที่บ้านกระแซงพัฒนา ต.กระแซง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมี นางพอน ต้นพิม หรือแม่แดง กับสามี เป็นผู้ล่อลวงมา
เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจับกุม โดยแบ่งกำลังกันซุ่มสังเกตการณ์อยู่ในหมู่บ้านกระแซงพัฒนาหรือหมู่บ้านกระแซงเมืองใหม่ หน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน และที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนกันทรลักษ์-ศรีสะเกษ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต่อมาพบผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 คนพาเด็กผู้หญิง 2 คนเข้ามาซื้อสิ่งของภายในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นในปั๊มน้ำมัน ปตท.
เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่าเด็กหญิงคนหนึ่งหน้าตาเหมือนกับภาพถ่ายที่พ่อ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) มอบไว้ให้แก่เจ้าหน้าที่ ตม.จว.นครพนม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตนขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว ซึ่งนายมงคลชัยนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงได้ แต่นางพอนไม่มีเอกสารใดแสดงและยอมรับว่าเป็นคนต่างด้าวสัญชาติลาวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
สอบถามเด็กหญิงทั้ง 2 คน คนหนึ่งแจ้งว่าชื่อ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ให้การว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปรับตนมาจากฝั่ง สปป.ลาว โดยบอกว่าหากมาด้วยจะให้ไปทำงานร้านคาราโอเกะที่ประเทศไทย จึงเชื่อและได้ตัดสินใจมากับคนทั้งสอง โดยนั่งเรือหาปลาข้ามมาฝั่งประเทศไทย และได้นั่งรถยนต์คันของกลางเดินทางต่อไปยังที่ จ.ขอนแก่น เพื่อรับเด็กผู้หญิงอีก 2 คนขึ้นนั่งรถยนต์คันของกลางมาด้วยกับตน
จากนั้นเดินทางต่อไปยังที่ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อให้ตนกับเพื่อนที่มาด้วยทำการค้าประเวณี ซึ่งเพื่อนได้ทำการค้าประเวณี แต่ตนไม่ยอม จากนั้นพามาอยู่ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และบังคับตนให้ค้าประเวณีรวม 4 ครั้ง ในครั้งแรกเป็นเงิน 5,000 บาท แต่ตนไม่ยอมค้าประเวณีจึงถูกข่มขู่ บังคับ และกดดัน ครั้งที่ 2 จึงยอมค้าประเวณีเพราะเกรงกลัว โดยได้ทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้รับเงินจำนวน 30,000 บาท ครั้งต่อๆ มาครั้งละ 3,000 บาท โดยนางพอน ผู้ถูกจับที่ 2 เก็บเงินไว้เองทั้งหมด และรับปากว่าจะให้กลับบ้านเมื่อครบกำหนด 5 ปี
ส่วนหญิงสาวอีกคนแจ้งว่า ชื่อ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สัญชาติไทย นางพอน ชักชวนให้มาทำงานค้าประเวณีครั้งละ 800 บาท โดยส่วนแบ่งแต่ละครั้งจะฝากธนาคารไว้ให้
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร ร่วมกันกระทำการค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี ร่วมกันกระทำการค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ร่วมกันเป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักพาไปเพื่อการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 รู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้ที่พัก ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับ ด.ญ.เอ และ น.ส.บี ได้มอบให้เจ้าพนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ รับไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
