ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจสืบสวนภาค 5 ซ้อนแผนรวบแก๊งค้ากามเชียงใหม่ จับนายหน้าสาววัย 20 ปี เปิดไลน์-เฟซบุ๊ก ขายตรงบริการทางเพศให้นักท่องเที่ยว ก่อนขยายผลตามจับคนในเครือข่ายพัวพันการค้ายาเสพติดรายย่อยทั้งไอซ์ ยาบ้าได้อีกอื้อ
วันนี้ (9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 5 ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่เชียงใหม่ และใกล้เคียงว่า มีกลุ่มวัยรุ่นในจังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาตีสนิท และอ้างว่าสามารถติดต่อหาหญิงบริการทางเพศที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาให้ได้ โดยให้ไอดีไลน์ชื่อ Ideazx ชื่อทางเฟซบุ๊กว่า Q-idea Aedi และหมายเลขโทรศัพท์ 09-9604-8882 ไว้ให้นักท่องเที่ยวใช้ติดต่อซื้อบริการทางเพศ
ต่อมา พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รอง ผบช.ภ.5./ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเด็กและสตรี ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวน
กระทั่งเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2558 เวลาประมาณ 23.00 น.เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อเด็กสาวมาให้บริการทางเพศในโรงแรมชื่อดังย่านใจกลางเมืองเชียงใหม่ โดยตกลงราคาค่าบริการคนละ 2,000 บาท จำนวน 3 คน จากนายหน้าที่ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.กนกวรรณ บุญโต หรือเดียร์ อายุ 20 ปี
เมื่อถึงเวลานัด น.ส.เดียร์ ได้ส่งหญิงสาวมาให้บริการมาให้บริการ จำนวน 3 คนคือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี น.ส.เจ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ น.ส.เค้ก (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ส่วน น.ส.เดียร์ เกิดระแวงไม่ยอมนำหญิงสาวมาส่งด้วยตนเองกลับแจ้งทางไลน์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝากเงินค่าตัวกับหญิงสาวไปให้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงซ้อนแผนโดยให้หญิงสาวนำเงินที่ล่อซื้อไปมอบให้ที่หอพักย่านสันติธรรมฯ และสามารถจับกุมตัว น.ส.เดียร์ ไว้ได้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีซึ่งกระทำต่อบุคคลซึ่งมีอายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตามและค้ามนุษย์” ส่วน น.ส.เค้ก ดำเนินคดีในข้อหา “ชักชวน แนะนำ หรือกระทำการใดๆ เพื่อการค้าประเวณี”
เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัว น.ส.เดียร์ มาทำการสืบสวนเบื้องต้น ได้พบข้อมูลการติดต่อทางเฟซบุ๊ก และไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีจำนวนมาก ทั้งยังพบข้อมูลที่มีการติดต่อกันเกี่ยวกับยาเสพติดฯ จึงได้มีการสืบสวนขยายผลเป็นเหตุให้สามารถติดตามจับกุม นายเอ็ม และ น.ส.แต้ม (ขอสงวนชื่อสกุลจริงเนื่องจากอยู่ระหว่างขยายผลการจับกุม) พร้อมด้วยของกลางเป็นยาไอซ์ จำนวน 1 กรัม ยาบ้า จำนวน 10 เม็ด และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยเครื่องกระสุน จำนวน 6 นัด ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางจังหวัดเชียงใหม่
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในการครอบครองโดยผิดกฎหมาย” และ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกอาวุธปืนไปในเมืองหรือไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถติดตามจับกุม นายธีรศักดิ์ หรือเก๋ ดวงผ่อง และนายพัฒพงษ์ หรือเบนซ์ วงศ์แสนใจ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 7 เม็ด ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้สถานศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย”
ต่อมา ได้นำตัว นายเก๋ แบะนายเบนซ์ มาทำการขยายผลทำให้สามารถจับกุมตัว นายเอกชน หรือต้อม วิริยา พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 200 เม็ด ได้ที่หอพักแห่งหนึ่งใกล้สถานที่ศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่เช่นกัน โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย” และในการสืบสวนขยายผลทราบว่า ยังมีกลุ่มผู้ค้าที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีข้อมูลเพียงพอที่จะทำการสืบสวนจับกุมต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุม กล่าวว่า เครือข่ายการค้าประเวณี ซึ่งกระทำต่อเด็กหรือเยาวชนในปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นต่อไปอีกระดับหนึ่ง โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือ ทั้งยังมีความเกี่ยวพันกับผู้เสพยาเสพติดฯ ซึ่งจะพัฒนาเป็นผู้ค้ารายย่อย และรายใหญ่ในอนาคต ขณะที่เด็ก และเยาวชนหันมาแสวงหารายได้จากการค้าประเวณีนั้น อาจเกิดจากการได้รับตัวอย่างที่ผิดที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ และทำตามโดยคิดว่าเป็นค่านิยมปกติในปัจจุบัน หรือส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการเสพยาเสพติดก็เป็นได้
