พิษณุโลก - ชาวบ้านลุ่มน้ำคลองชมภู ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญต้อนรับจระเข้น้ำจืดพันธุ์หายากคืนถิ่น หลังเข้ามาติดลอบดักปลา และถูกส่งไปพิสูจน์สายพันธุ์ที่นครสวรรค์นานกว่า 4 เดือน พร้อมทำพิธีบวงสรวง-ตั้งศาลเจ้าพ่อกาดำ ก่อนปล่อยคืนสู่คลองชมภู
วันนี้(3 เม.ย.) นายสุริยา หาญไพบูลย์ นายอำเภอเนินมะปราง จ.พิษณุโลก นายทักษิณ มงคลคมรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู ชาวบ้านเนินมะปราง ร่วมกันปล่อยจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์หายากเพศเมียกลับคืนสู่ธรรมชาติ บริเวณที่ สล. 5 (วังแดง) หมู่ 3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง
โดยก่อนปล่อยจระเข้ ชาวบ้านและเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำคลองชมภู ได้ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญต้อนรับจระเข้ บวงสรวงตั้งศาลเจ้าพ่อกาดำ ตามความเชื่อว่าสายน้ำและผืนป่าแถบนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักรักษา ก่อนปล่อยจระเข้ลงสู่คลองชมภูบริเวณวังกาดำ เขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง สล.5 (วังแดง)
นายโม คำคูณ รองประธานเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู กล่าวว่า จระเข้น้ำจืดยาว 2 เมตรตัวนี้ ได้เข้ามาติดลอบดักปลาของชาวบ้านบริเวณคลองชมภู ใกล้หมู่บ้านในต.ชมพู อ.เนินมะปราง ต่อมาหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.5 (วังแดง) ได้นำจระเข้ไปไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จ.นครสรรค์ เพื่อทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปพิสูจน์สายพันธุ์ ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.57 จนกระทั่งเสร็จสิ้น
นี้เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู กลุ่มเที่ยวไทยไปชมภู ชาวบ้าน พร้อมกับหน่วยงานราชการ องค์การบริหารส่วนตำบลชมพู อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จึงได้ร่วมกันนำจระเข้ตัวดังกล่าวปล่อยคืนสู่คลองชมภู อันเป็นแหล่งอาศัยดั้งเดิมของจระเข้ต่อไป ซึ่งชาวบ้านลุ่มน้ำชมพูรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ได้จระเข้ตัวดังกล่าวกลับคืนถิ่น
ขณะที่นายสุริยา หาญไพบูลย์ นายอำเภอเนินมะปราง กล่าวว่า หลังจากนี้ทางอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ จะได้ติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของจระเข้น้ำจืด เนื่องจากได้ฝังชิปไว้ และด้วยระบบนิเวศในลุ่มน้ำชมพูที่อุดมสมบูรณ์ อนาคตก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
"อย่างไรก็ตามจระเข้ตัวนี้ไม่มีฟันหน้าใหญ่ มีแต่ฟันกราม หลังโก่ง เนื่องจากมีการผสมพันธุ์ภายในครอบครัวเดียวกัน"