กาฬสินธุ์ - สภาพอากาศที่ร้อนแล้ง ฝนทิ้งช่วง น้ำคลองชลประทานไหลไม่สะดวกเนื่องจากขาดการปรับปรุง น้ำไหลไม่ทั่วถึง เป็นสาเหตุทำให้กุ้งเริ่มตาย เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม อำเภอยางตลาด ต่างเร่งอพยพกุ้งไปยังแหล่งที่มีน้ำไหลสะดวก ก่อนประสบปัญหากุ้งตายก่อนขายช่วงสงกรานต์
วันนี้ (1 เม.ย.) นายเพชรชัย ภูพานา อายุ 50 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สภาพอากาศในช่วงนี้ถือเป็นช่วงวิกฤตของกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งเป็นอย่างมาก เนื่องจากเวลากลางวันอากาศร้อนจัด อุณหภูมิน้ำในบ่อกุ้งก็จึงร้อนตามไปด้วย ส่งผลกระทบต่อกุ้งในบ่อที่เริ่มตายลงเพราะทนต่อสภาพน้ำร้อนไม่ได้
แต่หากบ่อใดที่น้ำลึกก็พอจะบรรเทาความเสียหายได้บ้าง แต่ก็ยังมีอัตราเสี่ยงน็อกตายสูง หากมีฝนตกลงมาก็จะเกิดปัญหาน็อกตายเพราะปรับสภาพไม่ทัน
นายเพชรชัยกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ หากบ่อเลี้ยงกุ้งอยู่ในทำเลที่น้ำชลประทานไหลไม่สะดวกเพราะลำคลองตื้นเขิน และรั่วซึม ขาดการพัฒนาปรับปรุง ก็ยิ่งต้องเสี่ยงมากขึ้นเพราะได้น้ำน้อย ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งอย่างระยะนี้ก็ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหากุ้งตายแล้ง จึงได้เร่งอพยพกุ้งไปเลี้ยงยังบ่ออื่นที่ทำเลดีกว่า เพราะหากช้าไปกว่านี้กุ้งอาจน็อกตายเหมือนทุกปีที่ผ่านมา และไม่มีกุ้งจำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามกลุ่มผู้ใช้น้ำของฝ่ายบำรุงและรักษาลำปาวหรือเขื่อนลำปาว พบว่าได้ถ่ายโอนคูคลองสายเล็กที่เรียกว่าคลองไส้ไก่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบ แต่ที่ผ่านมาในการพัฒนาปรับปรุงคลองส่งน้ำชาวบ้านต้องลงขันกันเอง
ขณะที่ชลประทานทุ่มงบประมาณไปกับการซ่อมแซมคลองสายหลัก ซึ่งมีการปิดซ่อมบำรุงเป็นประจำทุกๆ ปี