ร้อนแล้ง! ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามหวั่นน็อกตาย เร่งจับขายก่อนขาดทุน

กาฬสินธุ์ - อากาศที่ร้อนจัดช่วงกลางวัน สลับเย็นช่วงกลางคืน ส่งผลกระทบต่อกุ้งก้ามกราม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด ที่เสี่ยงกับการน็อกตาย ผู้เลี้ยงหลายรายตัดสินใจระดมแรงงานจับกุ้งออกขายก่อนขาดทุน

นายพงษ์เทพ ทุมมาวัติ อายุ 49 ปี ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามบ้านตูม ม.4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่วิปริต แห้งแล้งและร้อนจัด บางวันอบอ้าว มีฝนตก เป็นสาเหตุทำให้กุ้งน็อกตายจำนวนมาก เนื่องจากปรับสภาพไม่ทัน แม้จะมีเครื่องทำออกซิเจนช่วยบรรเทาความร้อนก็เอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนจัดราวน้ำต้ม เป็นสาเหตุหลักทำให้กุ้งน็อกตาย และประสบปัญหาขาดทุน

เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาจึงได้ระดมแรงงานช่วยกันจับกุ้งหนีภัยแล้ง โดยคัดแยกตัวใหญ่จำหน่ายให้พ่อค้ากิโลกรัมละ 250 บาท ส่วนกุ้งตัวเล็กก็ปล่อยลงเลี้ยงต่อเพื่อลดความแออัด และลดความเสียหายในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ในนามตัวแทนกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเห็นใจกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามบ้าง เนื่องจากที่ผ่านมาประสบปัญหามาก ทั้งต้นทุนการผลิตที่สูง พันธุ์ลูกกุ้งแพงถึงตัวละ 29 สตางค์ อาหารกิโลกรัมละ 35 บาท แต่กว่าที่กุ้งแต่ละรุ่นจะได้อายุจับจำหน่ายต้องใช้เวลาเลี้ยง 5-6 เดือน ลงทุนกว่าไร่ละ 2 หมื่นบาท ทำให้ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมาก

และปัญหาที่ประสบซ้ำซากในช่วงฤดูแล้ง อากาศร้อน คือ กุ้งน็อกตาย จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาทั้งระบบให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกาฬสินธุ์ด้วย