3 ประเทศศึกษาแลกเปลี่ยนด้านท่องเที่ยว ลงทุน การค้า ขนส่ง ใน จ.ตราด

ตราด - 3 ประเทศ 8 จังหวัด เดินทางมาศึกษาแลกเปลี่ยนข้อมูลการท่องเที่ยว การค้า ขนส่ง พร้อมร่วมทำเอ็มโอยู นักธุรกิจตราดเห็นด้วยร่วมลงทุน 3 ประเทศ ส่วน ผอ.พัฒนาฝีมือแรงงาน ชี้เอกชนตราดได้ประโยชน์

วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ห้องประชุมเลียดประถม ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด นายพยัคฆพันธ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมหอการค้าจังหวัด ภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด พร้อมส่วนราชการ และ ว่าที่เรือตรีสมศักดิ์ พรมดำ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการสัมมนา และศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ที่มีจังหวัดในประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย เกาะกง สีหนุวิลล์ พระตะบอง โพธิสัต กัมปอท และกรุงแกป ส่วนประเทศเวียดนาม ได้แก่ จ.เกียนยาง สำหรับประเทศไทย คือ จ.ตราด

ว่าที่เรือตรีสมศักดิ์ กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นผลจากคณะของรองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เดินทางไปเยี่ยม 4 จังหวัดชายทะเลของประเทศกัมพูชา เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้มีความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการคมนาคมขนส่ง เพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวระหว่างกันใน 5 จังหวัด ทำให้วันนี้มีการสัมมนา และแลกเปลี่ยนการเดินทางมาที่ จ.ตราด โดยมี จ.พระตะบอง โพธิสัต และเกียนยาง มาร่วมด้วยเป็น 8 จังหวัด

ซึ่งเวลา 3 วันที่อยู่ใน จ.ตราด คณะทั้งหมดจะเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั้งทางบก และเกาะ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างภาคเอกชนของทั้ง 3 ประเทศ ที่ขณะนี้ก็มีการทำธุรกิจ และร่วมลงทุนกันแล้ว ซึ่งเป็นการรองรับการเปิดประเทศสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการที่จังหวัดตราดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย

ด้าน นายเตชิต อัศวโภคิน ผู้ประกอบการค้าชายแดนด้านอำเภอบ่อไร่ จ.ตราด กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้เกิดประโยชน์ต่ออำเภอบ่อไร่ และจังหวัดมาก เนื่องจากปัจจุบันนักธุรกิจในอำเภอบ่อไร่ ได้ทำการค้าขายกับทางผู้ประกอบการของอำเภอสัมรูด และนักธุรกิจใน จ.พระตะบอง อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ช่องทางการค้าในอำเภอบ่อไร่ ยังเป็นจุดผ่อนปรนการค้า ไม่ใช่เป็นจุดผ่านแดนถาวรเหมือนช่องทางอื่น จึงทำให้การค้า และการท่องเที่ยวยังไม่สามารถทำได้เต็มรูปแบบนัก แม้จะมีความพร้อมแล้ว ซึ่งผลจากการสัมมนาครั้งนี้จะทำให้รับรู้ถึงความต้องการของเอกชนใน จ.พระตะบอง และร่วมมือในการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวได้ เพราะชาวพระตะบองต้องการมาเที่ยวทะเลใน จ.ตราด ชาวตราด ก็สามารถเดินทางจากพระตะบอง สู่เสียมเรียบได้สะดวกเช่นกัน

ขณะที่ นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การร่วมสัมมนากันวันนี้จะทำให้สามารถร่วมในการพัฒนา และร่วมลงทุนส่งเสริมในเรื่องการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่าง 8 จังหวัดที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจร่วมกันให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้น แม้ที่ผ่านมา จะมีการร่วมมือ และเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันแล้ว แต่ในการหารือแลกเปลี่ยนครั้งนี้เหมาะสมต่อโอการที่ประเทศทั้ง 3 กำลังก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และตราดมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่จะมีเรื่องการขนส่ง และการท่องเที่ยว จึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะสามารถพัฒนาไปพร้อมกันได้

และหลังจากจบการสัมมนาแล้ว คณะทั้งหมดจะเดินทางไปไปเกาะช้าง และเกาะเหลายา ศึกษาดูการขนส่งทางน้ำ และเดินทางมาชมหาดทรายดำ ก่อนเดินทางกลับด้วยระหว่างวันที่ 31 มี.ค. ถึง 3 เม.ย.