ตราด - พบโลมาตราด ตายต่อเนื่องตัวที่ 18 ประธานเครือข่ายสัตว์ทะเลหายากจี้ภาครัฐเข้าดูแล และช่วยกันหยุดการตายของโลมา
เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (7 มี.ค.) นางนงนุช ศิลปสาร ประมงอำเภอแหลมงอบ จ.ตราด ได้รับแจ้งจาก นายโอฬาร ไม่ทราบนามสกุล อาสาสมัครประมงแหลมงอบ ว่า พบโลมาหัวบาตรหลังเรียบตายลอยน้ำที่บริเวณปากคลองใหญ่ บ้านแหลมงอบ หมู่ 3 ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ยาวประมาณ 1.2 เมตร โดยสภาพเริ่มน้ำ คาดว่าโลมาตัวดังกล่าวคงจะติดเครื่องมือประมงโดยบังเอิญ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ จากนั้น นายธนิต แสงวิสุทธิ์ หัวหน่วยป่าชายเลน ที่ 1 ตราด (หาดทรายดำ) ได้รับการประสานให้นำซากโลมาตัวดังกล่าวไปเก็บผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตาย
นายกฤตภาส ศรีแสงขจร ประธานเครือข่ายสัตว์ทะเลหากยาก ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2558 เป็นต้นมา ในพื้นที่ จ.ตราด ได้พบโลมาเสียชีวิตมาอย่าง โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบแล้วกว่า 10 ตัว คาดว่าน่าจะมาจากติดเครื่องมือประมงในอ่าวตราดที่มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะการเสียชีวิตของโลมาอิรวดี นับวันจะเพิ่มมากขึ้น และเริ่มกระจายมาในพื้นที่ อ.แหลมงอบ นอกจากนี้ ตัวที่พบในวันนี้แล้ว เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ก็พบตายอีกตัวที่เกาะช้าง บริเวณหาดทรายขาว
“ผมอยากเห็นทางภาคราชการ และส่วนราชการที่เกี่ยงข้องตั้งชุดดูแลและป้องกันการเสียชีวิตของโลมาอย่างจริงจัง ที่ผ่านมา มีลุงทัด จิตสถาพร ประธานกลุ่มอนุรักษ์ประมงพื้นบ้านสะพานหินเท่านั้นที่เข้ามาดูแล และช่วยเป็นหูเป็นตาให้ ไม่มีส่วนราชการเข้ามาช่วย ซึ่งเป็นเวลา 3-4 ปีมาแล้วที่โลมาอิรวดี เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง และจังหวัดตราดต้องสูญเสียโลมาไปแล้วกว่า 300 ตัว”
ทั้งนี้ สำหรับโลมาที่เสียชีวิตบริเวณหาดทรายขาว ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด เมื่อเย็นวานนี้ (6 มี.ค.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ได้นำซากไปเก็บแช่เย็นไว้เพื่อรอการพิสูจน์แล้ว พบเป็นโลมาปากขวด เพศเมีย ขนาดความยาว 2.35 เมตร สภาพซากสด มีรอยแผลถลอก และผิวหนังหลุดลอกหลายแห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายซากไปเก็บรักษาไว้ที่ห้องเย็นศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออกฯ เพื่อรอชันสูตรหาสาเหตุการตายต่อไป