xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ตราดให้ปรับตัวหลังมีเขตเศรฐกิจพิเศษ เน้นขายมากกว่าผลิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตราด - ผู้ว่าฯ ตราด เผยชาวตราดต้องปรับตัวหลังมีเขตเศรฐกิจพิเศษ เน้นขายมากกว่าผลิต จากที่เคยเป็นผู้มีวิถีชีวิตพอเพียง

นายณรงค์ ธีรจัทรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวถึงแนวคิดเขตเศรษฐกิจพิเศษว่า วันนี้มีความชัดเจนในระดับหนึ่งแล้วว่าจะมีรูปร่างอย่างไร เนื่องจากตราดเป็นเมืองชายทะเล มีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา มีการค้าขาย และการท่องเที่ยวระหว่างกันมาช้านาน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะ จ.ตราด กับ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ที่มีมูลค่าการค้าขายถึงปีละ 2.8 หมื่นล้านบาท (ปี 2557)

โดยที่ผ่านมา มีการขนส่งทางทะเลไปยัง จ.เกาะกง สีหนุวิลล์ และกัมปอด ส่งต่อไปยังเวียดนาม แต่ปัจจุบันเริ่มมีการขนส่งทางบกมากขึ้น การที่รัฐบาลได้ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตราด โดยกำหนดไว้ที่ อ.คลองใหญ่ ที่มี 3 ตำบลนั้น จังหวัดให้เป็นศูนย์การสนับสนุน และบริการการนำเข้า-ส่งออก ศูนย์กระจายสินค้าไทยเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน และด้านการท่องเที่ยว ที่ไม่เหมือนกับพื้นที่อื่นๆ ซึ่งจะเน้นการตั้งนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่เราจะเน้นในเรื่องนี้เพราะมีศักยภาพสูงสุด

“วันนี้จุดขายของเมืองตราด คือ การเป็นกรีน ซิตี แต่เมื่อรัฐบาลได้ให้โอกาสชาวตราด กำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทำให้เมืองตราดเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ชาวตราดที่เคยเป็นผู้มีวิถีชีวิตที่พอเพียง มีรายได้สูงเก็บออมมากกว่าการลงทุน ต้องมีการปรับวิธีคิดใหม่แล้วว่าวันนี้จะดำเนินชีวิตแบบไหน จะเป็นผู้ผลิตอย่างเดียว หรือเป็นผู้ขาย หรือผู้ลงทุนด้วย และจะให้ลงทุนอุตสาหกรรมหรือไม่ ซึ่งต้องตัดสินใจให้ชัดเจนเพื่อจะได้ก้าวเดินต่อไป ส่วนการขยายพื้นที่ออกไปในอำเภออื่น และความคิดเห็นที่แตกต่างมากเกินไปบางทีก็ทำให้การทำงานมีอุปสรรคเพิ่มขึ้น”

ทั้งนี้ เพราะตราดวางตำแหน่งไว้ว่าจะเป็นคลังสินค้า และกระจายสินค้าไปยังต่างประเทศ ที่วันนี้ไม่ใช่แค่กัมพูชา แต่ไปถึงเวียดนามแล้ว มีท่าเรือเพื่อส่งออก แต่รองรับการบรรทุกสินค้าได้แค่ 500 ตันกรอส จึงยังไม่สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ได้ ท่าเรือเอกชนก็ยังเป็นแบบเทกอง ทำให้การขนส่งล่าช้ากว่าการขนส่งทางบก ดังนั้น วันนี้ชาวตราดต้องคิดให้เร็ว เพราะวันนี้ราคาที่ดินสูงมากถึงไร่ละ 25 ล้านบาทแล้ว จนเกรงว่านักลงทุนจะไม่กล้ามาลงทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น