เชียงราย - ขัวศิลปะ พร้อมศิลปินชื่อดังชาวเชียงรายร่วม 300 คนเปิดค่ายเยาวชนสมานฉันท์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สอนศิลปะเด็กและเยาวชน 3 ศาสนากว่าครึ่งร้อย หวังใช้ศิลปะเป็นสื่อให้เห็นการอยู่ร่วมกันอย่างสันติท่ามกลางความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา วิถีความเป็นอยู่
วันนี้ (30 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศิลปินในขัวศิลปะ ร่วมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย และมูลนิธิน้อมเกล้าเพื่อแผ่นดิน ได้จัดโครงการค่ายเยาวชนสมานฉันท์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เม.ย. 2558 ระหว่างวันที่ 29-30 มี.ค. ที่อาคารกองทุนศิลปินเชียงราย (ชัวศิลปะ) บ้านขัวแคร่ ม.13 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย
โดยได้รับสมัครเยาวชนที่นับถือศาสนาทั้ง 3 ศาสนาหลักในประเทศไทย คือ ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม รวมจำนวน 65 คน เข้าเรียนรู้วิชาศิลปะจากศิลปินขัวศิลปะ
อาจารย์อภิรักษ์ ปันมูลศิลป์ เลขานุการขัวศิลปะและศิลปินชื่อดังชาวเชียงราย กล่าวว่า ขัวศิลปะ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของศิลปินแขนงต่างๆ ในเชียงรายกว่า 300 คน ได้ดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมศิลปะในเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง และนำเด็กที่มาจากหลากหลายศาสนาให้มาอยู่ร่วมกัน โดยใช้ศิลปะเป็นสื่อกลางในการสร้างความสัมพันธ์และให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้
ซึ่งสิ่งที่พบเห็นคือเด็กและเยาวชนมุ่งมีสมาธิกับการทำผลงานทางศิลปะที่อาจารย์แต่ละท่านได้สอน อันเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกคนในสังคมเราได้เป็นอย่างดีว่า แม้คนเราจะแตกต่างกันในด้านเชื้อชาติ ศาสนา ความเป็นอยู่ ฯลฯ แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมุ่งมั่น และสันติสุข ด้วยการมีศิลปะเป็นสื่อกลาง และยังบ่งชี้อีกว่า แม้คนในประเทศไทยจะมีความหลากหลาย แต่พวกเราก็มีศูนย์กลางจิตใจเป็นสิ่งเดียวหมือนกันคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อาจารย์อภิรักษ์กล่าวอีกว่า กิจกรรมตลอดระยะเวลา 2 วันนี้ได้จัดให้เด็ก และเยาวชนได้วาดภาพสีน้ำ และสีโปสเตอร์ในช่วงภาคเช้าของวันแรก โดยให้วาดรูปภาพที่เกี่ยวข้องการทำความดีตามหลักศาสนาต่างๆ และค่านิยม 12 ประการ โดยให้เด็กๆ แสดงออกมาจากใจของพวกเขามาสู่ผลงานการวาดเขียน ด้วยเทคนิคและอุปกรณ์ที่อาจารย์สอนเอาไว้ ซึ่งพบว่าแต่ละคนถ่ายทอดผลงานด้านต่างๆ ออกมาได้อย่างน่าสนใจ เช่น บางคนวาดภาพออกมาโดยให้ความหมายว่า อยากให้เกิดความรักกันภายในชาติ, มีความกตัญญูต่อบิดามารดา, อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ จากนั้นให้ทุกคนวาดภาพรวมเป็นหมู่คณะ
ส่วนวันที่สอง ได้จัดให้มีการศึกษาดูงานที่วัดขัวแคร่ และให้ปั้นดินเหนียวบนกรอบขนาดเดียวกัน และให้ผลงานอยู่ภายใต้หัวข้อเรื่องหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ความหมายว่า แต่ละคนมีที่ดินเท่ากัน ก่อนจัดให้มีการเรียนเรื่องภาพพิมพ์และอื่นๆ ต่อไป
อาจารย์อภิรักษ์กล่าวอีกว่า ทางขัวศิลปะจะร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดโครงการลักษณะนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบสานผลงานทางศิลปะจากคนรุ่นสู่รุ่น เนื่องจากเชียงรายเราเป็นเมืองแห่งศิลปิน และศิลปะก็สามารถเป็นสื่อกลางที่ทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้
