นายกรัฐมนตรี มอบรางวัลเรียงความ “ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ” ย้ำเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา ลบความขัดแย้ง ที่ผ่านมากฎหมายใช้ไม่ได้เพราะใจคนไม่มีธรรมะ เร่งเดินหน้าไปสู้ประชาธิปไตย จึงต้องจำเป็นบังคับใช้กฎหมาย ใครไม่ทำผิดไม่ต้องเดือดร้อน ประกาศขอให้เชื่อมั่นไม่ทรยศต่อพื้นแผ่นดินนี้
ที่ทำเนียบรัฐบาล เช้าวันนี้ (20 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบรางวัลผู้ชนะการประกวดเรียงความ “ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ” จัดโดยกรมประชาสัมพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล เพราะมีคนเข้าร่วมประกวดกว่า 5 พันคน ไม่ใช่ง่ายๆ ที่จะเป็น 1 ใน 5 พันคน และขอให้ช่วยขยายต่อค่านิยม 12 ประการให้เกิดความเข้าใจ เราไม่สามารถรวมใจเป็นหนึ่งเดียวได้ถ้าขาดอะไรไป และต้องไม่ลืมของเก่าอย่างเพลง “หน้าที่เด็ก” ตนไม่ได้ล้มล้างของเก่า แม้วันนี้เราเริ่มของใหม่ต้องไม่ลืมของเก่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านสิ่งเหล่านี้ถือเป็นกำลังใจให้กับเด็กในการเดินหน้าไปวันข้างหน้า ขอบคุณทุกภาคส่วนทำให้เราเห็นอนาคต เพราะวันนี้เจตนารมณ์รัฐบาลเข้ามาทำเพื่อให้ชาติมั่นคงในวันข้างหน้า
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะไม่พูดเรื่องในอดีตที่ไม่ดี จะพูดเฉพาะเรื่องปัจจุบันและอนาคต ที่อยู่ในช่วงปฏิรูปที่จะทำให้อยู่ในกรอบประชาธิปไตย และกฎหมาย แม้ตนจะเข้ามาเป็นรัฐบาลในวิธีการแบบนี้ก็ตาม โดยประชาธิปไตยที่จะเกิดขึ้นต่อไปต้องไม่เป็นประชาธิปไตยที่ล้มเหลว เป็นประชาธิปไตยที่ดูแลทุกคนเท่าเทียม และเป็นธรรม วันนี้แก้ปัญหาหลายเรื่องในเวลาที่จำกัด ปรับแก้ใหม่หมด จากที่ผ่านมากฎหมายใช้ไม่ได้สักอัน เพราะในใจคนไม่มีธรรมะ ทั้งที่ผู้บริหารต้องมีธรรมาภิบาล บ้านเราต้องจัดระเบียบ ใครเดือดร้อนต้องขอโทษ สิ่งเหล่านี้ตั้งใจให้เกิดความเป็นธรรมในการใช้ทรัพยากร สร้างความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ต้องลบความขัดแย้งออกไปให้ได้ เอาตัวตนออกไปข้างนอก จากนี้จะไม่พูดเรื่องความขัดแย้งอีก เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ ให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ตนให้ความเป็นธรรมทุกคน ผิดหรือถูกไปสู้ในกระบวนการยุติธรรม สร้างสังคมให้เคารพกฎหมาย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ต้องเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย มีความจำเป็นบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งไม่มีใครเดือดร้อนเลย ถ้าใครไม่ทำความผิดไม่ต้องเดือดร้อน ถ้าเข้าใจสถานการณ์ ตนว่าทุกคนรับได้ วันนี้อายุ 61 ปีแล้วเกษียณแล้ว จริงๆ ต้องไปพักผ่อนอยู่กับลูกภริยา แต่ก็ต้องมาดูเพื่อให้ผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ไปให้ได้ ประเทศเราดีหมดติดแค่ยังมีการประท้วง มีการชู 3 นิ้ว ซึ่งถ้าชุมนุมตามกรอบประชาธิปไตยไม่ว่า แต่ต้องไม่แถมด้วยระเบิด ปืน เอ็ม 16 ถ้าไม่ให้มีกฎอัยการศึกแล้วจะทำอย่างไร ช่วยคิดหน่อย ทำอย่างไรให้เชื่อฟัง มันจำเป็นต้องใช้เพื่อลดความขัดแย้ง
ส่วนพวกกระทำความผิดส่วนใหญ่แรกๆ รับสารภาพหมด สักพักเริ่มมีเรื่องสิทธิมนุษยชน ทนายเข้ามาเกี่ยว นีjคือสาเหตุของความขัดแย้งทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหาย อะไรมันถูกมันผิดไปคิดกัน ส่วนต่างประเทศที่ไม่เข้าใจเดี๋ยวแก้ปัญหาเอง อย่าลืมว่าอะไรเกิดก่อนวันที่ 22 พ.ค.เราไม่ได้ให้ทำให้เกิด ดังนั้นขอความเป็นธรรมด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า ด่าตนว่า “รีดเลือดกับปู ถอนขนห่าน” ทั้งที่ตนต้องเสียภาษีเหมือนกัน ถ้าตนไม่ต้องเสียอะไรก็ว่ากันไป ตอนนี้ยังอธิบายไม่ได้ แต่ให้เข้าใจก่อนว่าภาษีต้องปรับปรุง วันนี้เราเสียภาษีไม่ถึง ร้อยละ 20 เมื่อเทียบต่างประเทศ ทำอย่างไรได้ในเมื่อรัฐต้องดูแลทั้งการรักษาพยาบาล การศึกษา รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี จะเอาเงินมาจากไหน ทั้งที่หลายประเทศเลิกระบบนี้มาหมดแล้ว แต่เราเลิกไม่ได้เพราะประชาชนเดือดร้อน ใครมีรายได้มากก็ต้องช่วยรัฐ คนจนก็นิดหน่อย แต่ต้องเป็นธรรม และประชาชนไม่เดือดร้อน
สำหรับเรื่องจัดสรรที่ดินทำกิน ยืนยันไม่ได้แจก ให้ทำกินเฉยๆ รูปแบบสหกรณ์หรือนิคม แต่ไม่ได้ให้สิทธิ์ ไม่มีอีกแล้วว่าแจกกี่ไร่ พูดให้เข้าใจด้วยว่ารัฐบาลไม่ได้ประชานิยม วันนี้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาส่งต่อให้ ตนไม่ได้มีสี เหนื่อย แต่เมื่อสำเร็จก็สบายใจ ตนมีแรงแค่นี้ จากนั้นพวกท่านไปเลือกตั้ง
“ผมทรยศกับผืนแผ่นดินนี้ไม่ได้ ผมรักษาเขามา ลูกน้องผมตายเจ็บกันเยอะแยะ ผมทรยศกับลูกน้องไม่ได้กับคนไทยไม่ได้ ขอให้เชื่อมั่น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมอบรางวัลแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ได้ร่วมร้องเพลง “ดอกไม้ให้คุณ” กับบรรดาเด็กๆ ที่ได้รับรางวัล