นครปฐม - ชาวบ้านในเมืองนครปฐม ได้กลิ่นศพโชยช่วยกันตามหา สุดท้ายพบที่มาของกลิ่น เรียกเจ้าหน้าที่ช่วยงัดประโปรงท้ายเก๋งผงะ! พบศพเจ้าของรถนอนอืดดับคาท้ายกระโปรงหลัง คาดลงไปนอนซ่อมเครื่องเสียง มืออาจจะไปคว้ากระโปรง หรือลมตีทำให้กระโปรงปิดแล้วไม่สามารถเปิดออกได้ จนขาดอากาศหายใจดับอนาถ
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันนี้ (29 มี.ค.) ร.ต.ท.บรรเจิด นพสมบูรณ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งคาดว่าจะมีศพอยู่ในรถเก๋งภายในบ้านเลขที่ 46/2 ม.3 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เดชศักดา แต้มรุ่งเรือง สวป.สภ.เมืองนครปฐม และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นสถานที่กำลังก่อสร้างบ้าน เจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเปอโยต์ 405 สีม่วงเปลือกมังคุด หมายเลขทะเบียน กต 4494 นครปฐม จอดอยู่ โดยมีประโปรงหน้าเปิดทิ้งไว้ แต่ที่ท้ายรถมีกุญแจเสียบอยู่ และกระโปรงหลังถูกปิดไว้
ต่อมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บหลักฐาน และเปิดประตูดูทั้ง 4 ด้าน พบที่ช่องพักแขนด้านเบาะหลังคนขับคล้าย มีขาคนนอนพับอยู่ภายใน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันงัดออก เมื่อเปิดออกดูจึงได้พบศพชายสภาพนอนหงายท้อง ศีรษะหันไปทางด้านขวามือ และขางออยู่ ร่างเต็มช่องเก็บสัมภาระท้ายรถ จึงได้ช่วยกันน้ำร่างออกมาชันสูตรเบื้องต้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุริยะ บุนจิตบรรจง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/55 ม.2 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เจ้าของที่ดินและรถยนต์คันดังกล่าว
เบื้องต้น จากการสอบถามชาวบ้านบอกว่า เห็นนายสุริยะ ครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ในช่วงเช้า และได้ยินเสียงนั่งซ่อมเครื่องรถยนต์อยู่ในตอนเที่ยง จากนั้นก็ไม่พบนายสุริยะ อีก จนกระทั่งมาวันนี้ได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาจากที่ดินดังกล่าว จึงช่วยกันตามหากลิ่น และพบว่ากลิ่นออกมาจากรถยนต์คันดังกล่าวจึงโทร.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
โดยเบื้องต้น แพทย์ได้ลงความเห็นว่า ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง โดยยังไม่ทราบสาเหตุการตายเนื่องจากศพเริ่มอืดมองไม่เห็นบาดแผลต้องนำไปผ่าชันสูตรที่ รพ.ศูนย์นครปฐม เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง แต่จากที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายน่าจะนำรถยนต์มาจอดซ่อมเครื่องเสียง โดยเปิดกระโปรงท้ายแล้วลงไปนอนที่ท้ายกระโปรงหลัง
คาดว่าผู้ตายน่าจะคว้ามือไปที่ฝากระโปรงท้ายเพื่อจะลุก หรืออาจจะมีลมพัดมาทำให้ฝากระโปรงท้ายปิด และไม่สามารถเปิดออกมาได้จนขาดอากาศหายใจหมดสตินอนเสียชีวิต ก่อนจะมีผู้มาพบศพอีก 2 วันต่อมา
