ประจวบคีรีขันธ์ - ปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ดูปัญหาจุดตัดรถไฟของเมืองหัวหิน ระบุขณะนี้ได้สั่งการให้ออกแบบ และขยายถนนบริเวณจุดตัดรถไฟทั้ง 2 แห่งให้ถูกต้อง ขณะที่เทศบาลเมืองหัวหิน เสนอให้มีการทำอุโมงค์ลอดทางรถไฟบริเวณโค้งพระจันทร์-ซอยโรงเหล็ก เพิ่มอีกหนึ่งแห่งเพื่อระบายการจราจร
วันนี้ (28 มี.ค.) นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม และคณะเดินทางลงพื้นที่จุดตัดรถไฟบ่อนไก่ ซอยหัวหิน 88 จุดตัดรถไฟชมสินธุ์ เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาจุดตัดรถไฟ และการจราจรติดขัด โดยมี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน น.ส.บุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรี นายจีรวัฒน์ พราหมณี รองปลัดเทศบาลฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งแขวงการทางประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม ร่วมต้อนรับ และบรรยายสรุปสภาพปัญหาการจราจรที่ติดขัดซึ่งเกิดจากจุดตัดรถไฟเป็นคอขวด พร้อมวางแนวทางในการแก้ไขปัญหา
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในจุดแรกอยู่บริเวณทางตัดรถไฟบ่อนไก่ ซึ่งจุดนี้วิกฤตหนักเพราะมีสภาพเป็นคอขวด ในช่วงที่มีการจราจรคับคั่งช่วงเช้า และเย็น รถจะติดขัดเป็นทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร และใช้เวลานานในการคลี่คลายการจราจร ซึ่งจุดนี้จะมีการขยายทางตัดจากเดิม 9 เมตร เป็น 12 เมตร ใช้งบประมาณจากทางเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่งตั้งไว้ 20 ล้านบาท โดย 3 ล้านบาทแรก เป็นเรื่องของสัญญาณไฟ ส่วนการก่อสร้างถนน ลูกระนาด ป้ายสัญญาณต่างๆ ก็อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
ส่วนจุดที่ 2 อยู่ที่จุดตัดรถไฟชมสินธุ์ เป็นอีกจุดที่พบปัญหาการจราจรติดขัดเช่นเดียวกัน จะมีการย้ายป้อมของเจ้าหน้าที่รถไฟออกไปไว้ด้านข้าง และย้ายป้อมตำรวจจราจรออกไปเพื่อเปิดทัศนวิสัยการจราจรให้ชัดเจน โดยอฉพาะอย่างยิ่งจะต้องปรับแก้ทางตัดรถไฟทั้ง 2 ด้านเป็นด้านละ 12 เมตร ปรับถนนเชื่อมต่อให้ตรงมากขึ้น แล้วจึงปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม จุดนี้ตั้งงบไว้อีก 20 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 40 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เรื่องได้ผ่านความเห็นชอบแล้ว สามารถเริ่มดำเนินการได้ เหลือเพียงแต่การลงนามในโครงการอย่างเป็นทางการเท่านั้น
จากนั้นปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปบริเวณที่จะมีการก่อสร้างจุดตัดรถไฟ โค้งพระจันทร์-ซอยโรงเหล็ก ซึ่งเทศบาลเมืองหัวหิน ขออนุญาตสร้างเป็นอุโมงค์ลอดผ่านเพื่อใช้เป็นจุดระบายการจราจรจากถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญ ในจุดนี้กำลังขออนุญาต คงเหลือเรื่องการดูแบบก่อสร้างว่ามีความเหมาะสมอย่างไร เนื่องจากจะต้องคำนึงถึงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูงในอนาคตด้วยว่าจะมีผลกระทบหรือไม่
โดยหลักการแล้วทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ได้ขัดข้อง แต่ต้องดูรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ อีก หากในอนาคตได้รับการอนุมัติให้ก่อสร้างก็เชื่อว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการจราจรของเมืองหัวหัวได้มากเลยทีเดียว โดยในสัปดาห์หน้าทาง สนข.จะเข้ามาดูรายละเอียดเรื่องของโครงสร้างของถนน และจะต้องวิเคราะห์ร่วมกับโครงการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ด้วย จะต้องพิจารณาไปพร้อมกันเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบขึ้นได้ ซึ่งการดำเนินการสร้างสามารถปรับให้สอดคล้องไปด้วยกันได้
